กสิกรฯลุ้นหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยืนเหนือ 1,230 จุด หลังผันผวนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และร่วงลงต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปีครั้งใหม่

ดัชนี หุ้นไทย ร่วงลงแรงในช่วงต้นสัปดาห์ โดยหลุดแนว 1,200 จุดไปแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี (4 ปี 11 เดือน) ที่ 1,173.13 จุด ท่ามกลางแรงขายทำกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นบิ๊กแคปกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงความกังวลต่อผลกระทบของสงครามการค้าหลังสหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% พร้อมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ซึ่งมีผลในวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจีนก็ได้ประกาศตอบโต้สหรัฐฯ ในเวลาต่อมา

ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากตลาดคลายความกังวลบางส่วนต่อสงครามการค้าหลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ มีท่าทีประนีประนอมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับแคนาดาและเม็กซิโก (ซึ่งต่อมามีการเลื่อนเก็บภาษีบางรายการออกไป 1 เดือน) ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงในเวลาต่อมาก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่ากระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการฟื้นความเชื่อมั่นตลาดทุน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยกลับมายืนเหนือ 1,200 จุดได้ก่อนช่วงปิดตลาดปลายสัปดาห์

เมื่อวันศุกร์ที่ที่ผ่านมา 7 มี.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,202.03 จุด ลดลง 0.14% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 44,592.24 ล้านบาท ลดลง 21.97% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.47% มาปิดที่ระดับ 252.19 จุด

สำหรับ สัปดาห์นี้ (10-14 มี.ค. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,180 และ 1,170 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,220 และ 1,230 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ของยูโรโซนและอังกฤษ ตลอดจนยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนก.พ. ของจีน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles