กสิกรฯแนะจับตาสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ “ทรัมป์” ลุ้นเงินบาทสัปดาห์นี้แตะสุด 34.80 บาทต่อดอลลาร์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่ 34.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ ยังมีทิศทางค่อนข้างดี ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดไม่น่าจะรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกแข็งค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ แต่ยังคงสอดคล้องกับภาพรวมของสกุลเงินเอเชียที่ฟื้นตัวกลับมาเช่นกันตามทิศทางเงินหยวน (หลังทางการจีนส่งสัญญาณและออกมาตรการดูแลเพื่อประคองทิศทางเงินหยวน อาทิ การเพิ่มเพดานการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศสำหรับบริษัทต่างๆ และตัวเลขจีดีพีของจีน ซึ่งสะท้อนว่า จีนสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ 5% ในปี 2567 ที่ผ่านมา) และเงินเยน (ซึ่งตลาดเริ่มมีมุมมองว่า BOJ อาจคุมเข้มนโยบายการเงินด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค.นี้)

ด้านเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานข่าวที่ระบุว่า ทีมเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะพิจารณาทยอยปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าแทนการปรับขึ้นในคราวเดียว นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด (อาทิ PPI, Core CPI, ยอดค้าปลีก และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์) และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งกระตุ้นให้ตลาดกลับมาประเมินว่ามีโอกาสที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนช่วงกลางปีนี้

เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ม.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.46 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (10 ม.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 13-17 ม.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 5,539 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 10,393 ล้านบาท (แบ่งเป็น ขายสุทธิพันธบัตร 10,386 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 6 ล้านบาท)

โดยในสัปดาห์นี้ 20-24 ม.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 34.05-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศหลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ สถานการณ์เงินทุนต่างชาติ ค่าเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. ดัชนี PMI (เบื้องต้น) และดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOJ (23-24 ม.ค.) การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีนด้วยเช่นกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles