ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ผ่านไป เงินบาท ทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ ทั้งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าตามภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ประกอบกับมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด และท่าทีจากประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดอาจยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงไปอีกระยะ โดยจะยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยในรอบการประชุมใกล้ๆ นี้ เงินบาทยังคงอ่อนค่าจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ แต่กรอบการอ่อนค่าชะลอลงบางส่วนเพราะมีแรงประคองกลับจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับตลาดในฝั่งเอเชียระมัดระวังมากขึ้น หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ตกลงที่จะหารือร่วมกันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด
สำหรับในสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 22-26 เม.ย. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.70-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลการส่งออกเดือนมี.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง การเคลื่อนไหวของค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนมี.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/67 (Advanced) ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซนและ อังกฤษ ผลการประชุม BOJ ตลอดจนการประกาศอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ของธนาคารกลางจีน