“กอบศักดิ์” ประธาน FETCO ชี้ ปั่นป่วนทั่วโลก … ด้วยมือ Trump สงครามการค้าปะทุรุนแรง เตือนไทยพร้อมรับมือ

นาย กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุน (FETCO) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ปั่นป่วนทั่วโลก … ด้วยมือ Trump !!! วันที่ 2 ของสงครามการค้าโลก จุดจบของ USMCA ที่เคยเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่เริ่มเมื่อปี 1994 ในชื่อ NAFTA จุดเริ่มต้นของความปั่นป่วนของตลาดการเงินโลก

ล่าสุด เช้าวันนี้ Dow Jones Future ร่วงไปถึง 500 จุด หรือ -1.2% Nasdaq Future ร่วง 480 จุด หรือ -2.2% ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ขึ้นมาที่ 109.4 หรือ +1.1% สวนทางค่าเงินดอลลาร์แคนาดาอยู่ที่ 1.48 หรืออ่อนค่าลงไปถึง 2.3% จากวันศุกร์ที่แล้ว โดยอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี ค่าเงินเปโซ Mexico อยู่ที่ 21.2 อ่อนลง -3.55% ค่าเงินหยวน offshore อยู่ที่ 7.35 อ่อนลง -1.2% หลังชัดเจนแล้วว่า แคนาดา เม็กซิโก และจีน เลือกที่จะ “ลุกขึ้นมาต่อต้าน” ไม่ “สยบยอม” ต่อทรัมป์

แคนาดาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าโต้ตอบสหรัฐในอัตรา 25% เช่นกันสำหรับสินค้าจำนวน 155 พันล้านดอลลาร์แคนาดา โดยเริ่มที่กลุ่มแรก 30 พันล้านในวันอังคาร (พร้อมกับการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ) ส่วนที่เหลือ 125 พันล้าน จะขึ้นในอีก 21 วัน นอกจากนี้ ประชาชน ธุรกิจ รัฐบาลท้องถิ่นของแคนาดาจะเริ่ม Boycott สินค้าอเมริกาต่างๆ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเหล้า ไวน์ และอื่นๆ

หลายคนในแคนาดารู้สึกว่าสหรัฐทำอย่างนี้ได้อย่างไร และการทำร้ายแคนาดาครั้งนี้เป็นการทรยศต่อความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองฝ่ายที่มีมานาน นายกรัฐมนตรีแคนาดาบอกว่า “จากชายหาดนอร์มังดีถึงภูเขาบนคาบสมุทรเกาหลี จากทุ่งแฟลนเดอร์สถึงถนนในกันดาฮาร์ เราต่อสู้และล้มตายเคียงข้างคุณในโมงยามที่มืดมนที่สุดของคุณ”

“ใช่ เรามีความแตกต่างกันในอดีต แต่เราก็พบวิธีที่จะผ่านมันไปได้เสมอ อย่างที่ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ หากประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการนำยุคทองใหม่มาสู่สหรัฐอเมริกา หนทางที่ดีกว่าคือการร่วมมือกับแคนาดา ไม่ใช่ลงโทษเรา

ด้านเม็กซิโกประกาศที่จะใช้ Plan B ที่จะใช้ทั้งมาตรการภาษีนำเข้าและมาตรการอื่นๆ ประกอบเพื่อตอบโต้ โดยประธานาธิบดีเม็กซิโกบอกว่า “ผมได้สั่งการให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจของผมดำเนินการตามแผน B ที่เรากำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งรวมถึงมาตรการภาษีและมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเม็กซิโก”

ขณะที่จีนตัดสินใจที่จะนำเรื่องไปฟ้อง WTO หรือองค์กรการค้าโลก ว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อข้อตกลงการค้าเสรี และพร้อมดำเนินมาตรการต่างๆ ตอบโต้เช่นกัน

ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์หลังจากทราบทางเลือกของทั้ง 3 ประเทศ ก็ได้ออกมาโพสต์คำสนับสนุนของหลายๆ คนในสหรัฐที่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีกับทั้ง 3 ประเทศ และระบุเพิ่มเติมว่า “Tariff Lobby ซึ่งนำโดยกลุ่มโลกาภิวัตน์ และ Wall Street Journal กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องให้กับประเทศอย่างแคนาดา เม็กซิโก จีน และอีกหลายประเทศ ที่ปล้นอเมริกามายาวนานหลายทศวรรษ ทั้งในด้านการค้า อาชญากรรม และยาเสพติดที่ได้รับอนุญาตให้ไหลเข้าสู่อเมริกาอย่างเสรี วันเหล่านั้นสิ้นสุดลงแล้ว! สหรัฐอเมริกาขาดดุลมหาศาลให้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีน (และเกือบทุกประเทศ!) เป็นหนี้ถึง 36 ล้านล้านดอลลาร์

และเราจะไม่เป็น ‘ประเทศโง่เขลา’ อีกต่อไป ผลิตสินค้าของคุณในสหรัฐถ้าไม่อยากเจอภาษี! ทำไมสหรัฐอเมริกาต้องสูญเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ไปกับการอุดหนุนประเทศอื่นๆ และทำไมประเทศอื่นๆ เหล่านี้จึงจ่ายเงินเพียงเศษเสี้ยวเดียวของสิ่งที่พลเมืองสหรัฐจ่ายเป็นค่ายาและเวชภัณฑ์ นี่จะเป็นยุคทองของอเมริกา! จะมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นบ้างไหม? ใช่ อาจจะเกิดขึ้น (และอาจจะไม่!) แต่เราจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และมันจะคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป เราเป็นประเทศที่บริหารด้วยสามัญสำนึก และผลลัพธ์จะออกมาอย่างยอดเยี่ยม!!!”

“เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา ทำไมล่ะ? ไม่มีเหตุผล เราไม่ต้องการอะไรที่พวกเขามี เรามีพลังงานไม่จำกัด เราควรผลิตรถยนต์ของเราเอง และเรามีไม้มากมายเกินกว่าจะใช้หมด หากไม่มีการอุดหนุนจำนวนมหาศาล แคนาดาก็จะไม่สามารถธำรงอยู่ต่อไปได้ในฐานะประเทศ มันอาจจะฟังดูโหดร้าย แต่เป็นเรื่องจริง! ดังนั้น แคนาดาจึงควรเป็นรัฐที่ 51 ของเรา เพื่อที่ประชาชนของแคนาดาจะได้เสียภาษีลดลงมาก และได้รับการคุ้มครองทางทหารที่ดีกว่ามาก -และจะไม่มีภาษีศุลกากร!”

“ใครก็ตามที่ต่อต้านภาษี รวมถึง Wall Street Journal ที่เผยแพร่ข่าวปลอม และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ต่างต่อต้านภาษีเพียงเพราะบุคคลหรือหน่วยงานเหล่านี้ถูกควบคุมโดยจีน บริษัทต่างประเทศหรือบริษัทในประเทศอื่นๆ ใครก็ตามที่รักและเชื่อในสหรัฐอเมริกาจะเห็นด้วยกับภาษีศุลกากร ภาษีศุลกากรไม่ควรถูกล้มเลิก เพื่อสนับสนุนระบบภาษีเงินได้ (Income Tax System) ในปีค.ศ. 1913 การตอบสนองต่อภาษีศุลกากรนั้นยอดเยี่ยมมาก!”

นายกอบศักดิ์ ระบุว่า เมื่อทุกฝ่ายเดินมาถึงจุดนี้ เมื่อเลือกที่จะไม่เจรจาคุยกัน ก็คงต้องทำใจว่าสงครามการค้าโลกคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เริ่มต้นจาก 4 ประเทศ ต่อไปก็คงจะขยายวงกว้างขึ้น เพราะ 3 ประเทศนี้ คือ ประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐที่จะสามารถกระทบบูมเมอแรงกลับมาที่สหรัฐได้แรงสุด เพราะคนที่เหลือ เล็กกว่ามากที่สหรัฐไม่ต้องใส่ใจกับผลกระทบที่จะกลับมาเท่ากับ 3 ประเทศนี้

เพราะล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังจับตาอีกประเทศ โดยระบุว่า ” แอฟริกาใต้ กำลังยึดที่ดินและปฏิบัติต่อคนบางกลุ่มอย่างเลวร้ายมาก นับเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สื่อฝ่ายซ้ายสุดโต่งไม่ต้องการพูดถึงด้วยซ้ำ การละเมิดสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้นให้ทุกคนได้เห็น สหรัฐอเมริกาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น เราจะดำเนินการ นอกจากนี้ จะตัดเงินทุนทั้งหมดในอนาคตสำหรับแอฟริกาใต้จนกว่าการสอบสวนสถานการณ์นี้จะแล้วเสร็จ!”

เมื่อฝุ่นหายตลบ ประเทศที่เกินดุลกับสหรัฐระดับถัดไป เช่น สหภาพยุโรป เวียดนาม คงเป็นเป้าหมายถัดไป เส้นทางต่อไปก็จะไม่ง่าย กระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะแคนาดาและเม็กซิโกที่ส่งออกไปสหรัฐมากกว่า 70% พึ่งพาสหรัฐ แบบที่ขาดไม่ได้ เพราะช่วงที่ผ่านมา ได้อาศัยเศรษฐกิจสหรัฐมาเป็นตลาดสำคัญที่หล่อเลี้ยงธุรกิจของตนเอง แคนาดามีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย เศรษฐกิจเม็กซิโกคงจะชะลอตัวจากที่เคยคาดไว้อย่างมีนัยยะ จีน คงกระทบในส่วนของค่าเงินหยวน สหรัฐ ก็จะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น จากเงินเฟ้อรอบใหม่ และในส่วนของผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ แต่ท่านก็บอกไว้แล้วว่า

“เราจะไม่เป็น ‘ประเทศโง่เขลา’ อีกต่อไป” … “จะมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นบ้างไหมน่ะหรือ? ใช่ อาจจะ (และอาจจะไม่!)” แต่เราจะทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และมันจะคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป”
สหรัฐคงพร้อมที่จะออกจาก WTO เพราะประธานาธิบดีทรัมป์เคยขู่ไว้แล้วเมื่อปี 2561 ที่จะออกจากการเป็นสมาชิก เนื่องจากสหรัฐได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจาก WTO ส่วนประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย ก็ต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบที่จะตามมา

ด้านค่าเงิน ตลาดหุ้น ตลอดจนด้านสินค้าราคาถูกจากจีนที่จะไหลเข้ามามากขึ้นเมื่อส่งไปที่สหรัฐไม่ได้จากมาตรการภาษีกับสินค้าราคาต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ ที่สหรัฐยกเลิกการยกเว้นไป พร้อมกันด้วยทำใจว่าเรากำลังอยู่ในโลกใหม่ที่ต่างจากเมื่อก่อนวันที่ 20 ม.ค. 68

ที่สำคัญที่สุด คงต้องถามตัวเองว่า
เราได้เปรียบและเอาเปรียบอะไรสหรัฐหรือไม่
เรามีประโยชน์อะไรกับเขา
เราจะซื้ออะไรเพิ่มจากเขาได้
ถ้าถึงจุดนั้นจริงๆ จะยอมแบบ Colombia หรือไม่
นายกอบศักดิ์ ระบุว่า ไทยต้องมองหาทุกทางออกเตรียมไว้ เพื่อให้เราพร้อมรับมือ พร้อมเจรจาต่อรอง เมื่อถึงรอบของเรา และมองหาโอกาสที่จะเปิดขึ้นจากความผันผวนปั่นป่วนข้างหน้า น่าตื่นเต้นน่าติดตามว่าจะเกิดอะไรต่อไป

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles