กำไรพุ่ง! เอไอเอสกวาดกำไรปี 66 ก่อนหักภาษีกว่า 93,000 ล้าน สั่งจ่ายปันผลหุ้นละกว่า 8 บาท

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ให้เสนอที่ประะชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในวันที่ 25 มีนาคม 2567 พิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2566 เป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 8.61 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ในอัตรา 4.00 บาทต่อหุ้น ไปแล้ว ดังนั้นคงเหลือจ่ายปันผลสำหรับงวดนี้ 4.61 บาทต่อหุ้น อนึ่ง บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 40.44% จำนวน 1,202,712,000 หุ้น จะได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในครั้งนี้ประมาณ 5,544.50 ล้านบาท

ซีอีโอเอไอเอส กล่าวต่อไปว่า ปี 2566 เป็นอีกปีที่ต้องเผชิญกับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไม่เป็นไปตามเป้า บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาเครือข่ายคุณภาพ ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบรอดแบนด์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนไทย รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่จะสะท้อนไปถึงภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนการสร้าง ECOSYSTEM ECONOMY ร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำจากหลายภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตแบบร่วมกันอย่างยั่งยืน

โดยเตรียมงบลงทุนในปี 2567 ไว้ที่ 26,000 ล้านบาท ผ่านการลงทุนโครงข่าย 5G และอินเทอร์เน็ตบ้านกับเป้าหมายการทำงานที่มุ่งยกระดับคุณภาพการให้บริการและโครงข่ายสัญญาณเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผ่านกลุ่มธุรกิจหลัก ทั้ง โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้าน, ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร และบริการดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพบริการในทุกมิติ

สำหรับผลประกอบการในปี 2566 AIS ทำรายได้รวม 188,873 ล้านบาทได้รับประโยชน์จากการเริ่มรับรู้รายได้ บริษัท ทริปเปิลทรี บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน  และมีกำไรสุทธิ 29,086 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เท่ากับ 93,371 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งทุกธุรกิจ ร่วมกับการพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน ด้วยระบบโครงข่ายอัตโนมัติ (Autonomous Network) และระบบไอทีอัจฉริยะที่ยกระดับประสบการณ์การใช้งาน

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมที่ 44.6 ล้านเลขหมาย โดยยังคงมุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าบนศักยภาพของโครงข่าย 5G ที่วันนี้มีความครอบคลุมพื้นที่การให้บริการใกล้เคียง 90% ของพื้นที่ประชากร โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมแล้วกว่า 9.2 ล้านเลขหมาย

ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พร้อมให้บริการแล้วทั้ง AIS FIBRE3 และ3BB FIBRE3 ด้วยความครอบคลุมและเข้าถึงได้มากกว่า 13.3 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ รวมถึงนวัตกรรมเน็ตบ้านและโซลูชันที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกบ้าน ทุกร้าน ทุกธุรกิจ และการส่งมอบประสบการณ์ความสุขและมาตรฐานการให้บริการที่รู้ใจ ทำให้วันนี้ AIS 3BB FIBRE3 มีฐานลูกค้ากว่า 4.7 ล้านครัวเรือน

ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร สามารถตอบโจทย์ภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านบริการโครงข่าย ดิจิทัลโซลูชัน คลาวด์ และ บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ที่พร้อมเชื่อมต่อในทุกการทำงาน สำหรับลูกค้าองค์กร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักของประเทศอย่าง กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ

ธุรกิจบริการดิจิทัล ยังคงร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งตามแนวคิด Ecosystem Economy เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการจับมือกับพาร์ทเนอร์ด้านคอนเทนต์ความบันเทิงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Netflix HBO ล่าสุดกับ Prime รวมถึงบริการดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รอบด้าน อาทิ บริการประกันดิจิทัลจาก AIS Insurance Service หรือแม้แต่เกมแพลตฟอร์มอย่าง Game On ศูนย์รวมบริการเกมที่ครบทุกความต้องการของกลุ่มเกมเมอร์

ในปีนี้เรายังคงเดินหน้ายกระดับการให้บริการในทุกกลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายโครงข่ายสื่อสารและโครงข่ายเน็ตบ้านให้มีความครอบคลุมทุกพื้นที่การใช้งานของคนไทย อันจะนำไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ให้กับประเทศสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืนของประเทศในทุกมิตินายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles