สำนักข่าวเกียวโด นิวส์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังระดับประเทศของญี่ปุ่น เปิดเผยผลการสำรวจร้านสะดวกซื้อ หรือ Convenient Store ในประเทศญี่ปุ่น พบว่า เกือบ 12% หรือกว่า 6,400 สาขา ที่ดำเนินงานโดยผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ทั้ง 7 ยี่ห้อดังจะไม่เปิดให้บริการครบ 24 ชั่วโมงอีกต่อไป ผลสำรวจดังกล่าวทำการสำรวจจากสาขาทั้ง 7 ยี่ห้อรวมกันกว่า 55,000 สาขานั้น พบว่า มีร้านสะดวกซื้อกว่า 6,400 แห่งในประเทศญี่ปุ่น เปิดขายในเวลาที่ลดลงในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนที่ผ่านไป
สาเหตุจากร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นขาดแคลนแรงงาน หรือพนักงานอย่างมากที่จะมาทำงานในร้าน พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากสภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังคงชะลอตัว ร้านค้าบางแห่งรียติดตั้งและให้บริการเครื่องเก็บเงินสดทั้งธนบัตรและเหรียญ ซึ่งไม่ต้องใช้พนักงานมาเก็บเงินมากขึ้น
ด้านเซเว่น อิเลฟเว่น เจแปน คอร์ป แบรนด์ร้านสะดวกซื้อชั้นนำในญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เจ้าของแฟรนไชส์ร้านเซเว่น-อเลฟเว่นในญี่ปุ่นได้ร้องขอให้บริษัทแม่ดำเนินการทบทวนช่วงเวลาเปิดบริการตามแนวคิดเดิม 24 ชั่วโมง จากปัญหาด้านขาดแคลนแรงงาน ดังนั้น จึงได้ปรับลดเวลาให้บริการของร้านค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 200 แห่งทั่วญี่ปุ่นนับแต่ปี 2020 เป็นต้นมา สอดรับกับบริษัท ลอว์สัน ได้ใช้มาตรการที่คล้ายกันกับร้านสะดวกซื้อลอว์สันอีกประมาณ 100 แห่ง
ผลสำรวจยังพบว่า เซเว่น-อิเลฟเว่น ลอว์สัน และแฟมิลี่ มาร์ท ลดเวลาการให้บริการลง 8-10% เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายเล็กอื่นๆ ร้านไซโคมาร์ท ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ลดเวลาเปิดบริการลงมากที่สุดถึง 87% ร้านป็อปลาร์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองฮิโรชิมา อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ลดเวลาเปิดบริการลงทาอยู่ที่ 79% ของเวลาปกติ และร้านมินิสต็อป เปิดบริการโดยลดเวลาลง 22% จากปกติ
