นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่าในไตรมาส 2 ปี 2567 ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมือสองมีจำนวนที่ประกาศ 140,725 หน่วย มูลค่า 718,436 ล้านบาท เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลให้มี บ้านมือสอง ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสามารถในการผ่อน โดยเฉพาะบ้านราคาถูกที่มีออกมาค่อนข้างมาก ส่วนบ้านมือสองราคาแพงก็มากขึ้นด้วยในส่วนของคอนโดที่มีการซื้อไว้ปล่อยเช่า เมื่อไม่มีผู้เช่าก็นำออกมาขาย
ขณัที่ มูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขาย มีมูลค่าที่สุดในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วนร้อยละ 54.3 รองลงมาคือระดับราคา 3.01-5 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 11.5 และระดับราคาที่มีมูลค่าน้อยที่สุด คือระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ2.2
ส่วน มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสอง มีมูลค่ามากที่สุดในระดับราคา 2.01-3 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 22.9 รองลงมาคือระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 17.8 และระดับราคาที่มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์น้อยที่สุด คือระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 3.8
เมื่อพิจารณารายจังหวัดที่มีมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่
อันดับ 1 กรุงเทพฯ มีจำนวนประกาศขาย 42,377 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30.1 มีมูลค่า386,191 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.8 ส่วนใหญ่ประกาศขายในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท
อันดับ 2 นนทบุรี มีจำนวนประกาศขาย 10,895หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.7 มีมูลค่า 48,382 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.7 ส่วนใหญ่ประกาศขายในระดับราคา 3.01 – 5 ล้านบาท
และอันดับ 3 ชลบุรี มีจำนวนประกาศขาย 9,229 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.6 มีมูลค่า 43,925ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.1 ส่วนใหญ่ประกาศขายในระดับราคา 3.01 – 5 ล้านบาท