นิกเคอิ เอเชีย สำนักข่าวชื่อดังระดับโลกในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลตลาดรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ในอินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม พบว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 มาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 นี้ มียอดขายในไตรมาสที่ 2 ห่างจากตลาดรถยนต์อินโดนีเซีย 8,134 คัน หลังจากในไตรมาสที่ 1 ในปี 2023 มาเลเซียมียอดขายรถยนต์ในประเทศห่างจากตลาดรถยนต์อินโดนีเซียมากถึง 89,474 คัน
สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งมาเลเซีย เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในไตรมาสที่ 2 มีทั้งสิ้น 184,702 คัน เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ผ่านมา ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นนำโดยแบรนด์รถยนต์สัญชาติมาเลเซียทั้ง 2 แบรนด์ ได้แก่ เพอร์โรดัว และโปรตอน ตลาดรถยนต์ในประเทศมาเลเซียเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 สอดคล้องกับเศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาสที่ขยายตัวสูงถึง 5.9% ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน เมื่อพิจารณาเฉพาะกำลังการบริโภคของมาเลเซียในไตรมาส 2 พบว่า ภาคเอกชนมีการบริโภคอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำระหว่าง 1.7-2.0% ที่สำคัญ เงินริงกิตมาเลเซียเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นสูงมาก ส่งผลให้เพิ่มกำลังซื้อสินค้าที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์
รถยนต์ทั้ง 2 แบรนด์ ได้แก่ เพอร์โรดัว และโปรตอน ซึ่งเป็นรถยนต์แห่งชาติของประเทศมาเลเซีย ถึงแม้จะมีพันธมิตรจากค่ายรถยนต์ต่างชาติมาร่วมถือหุ้นในรถยนต์แห่งชาติดังกล่าว แต่เป็นผลิตภายใต้แบรนด์แห่งชาติมาเลเซีย ได้กลายเป็นที่นิยมของประชาชนในมาเลเซีย เนื่องจากมีราคาขายถูกกว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์รถยนต์อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากรัฐบาลมาเลเซียด้วยการเก็บอัตราภาษีนำเข้าสูง มีการตั้งกำแพงภาษีศุลกากรสูง และตั้งภาษีมูลเพิ่มสูงกับรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ
ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยที่ตลาดรถยนต์มาเลเซียเติบโตต่อเนื่องถึงกับมียอดขายใกล้เคียงอินโดนีเซียนั้น พบว่า ตลาดรถยนต์อินโดนีเซียชะลอตัวลง โดยมียอดขายลดลงถึง -14% ในไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในอินโดนีเซียร่วงต่อเนื่องถึง 13 ไตรสาสติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่กรกฎาคมปี 2023
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2024 ยอดขายรถยนต์ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 มาเป็นเวลานานในอาเซียนนั้น นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ในปี 2023 มาถึงในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 นี้ มาเลเซียมียอดขายรถยนต์ในประเทศพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 ไตรมาส และทำยอดขายแซงยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย เป็นผลสำเร็จส่งผลให้ตลาดรถยนต์ประเทศมาเลเซียแซงตลาดรถยนต์ประเทศไทยขึ้นมาอยู่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียนอย่างเป็นทางการ
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศมาเลเซียเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ทั้งประเทศมาเลเซียในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 นี้เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 202,245 คัน ในขณะที่ตลอดทั้งปี 2023 ผ่านไปตลาดรถยนต์มาเลเซียทำยอดขายได้สูงถึง 799,731 คัน ทำสถิติยอดขาย รถยนต์ในประเทศสูงสุดมากเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซีย
สาเหตุที่ทำให้ตลาดรถยนต์มาเลเซียมีขนาดใหญ่โตขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาดอาเซียน แซงประเทศไทยนั้น เนื่องจาก รัฐบาลมาเลเซียมีมาตรการยกเว้นเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของราคารถยนต์ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยี่ห้อใดก็ตามที่ผลิตภายในประเทศมาเลเซีย นโยบายและมาตรการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเลเซียของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทำให้รถยนต์แห่งชาติสองยี่ห้อดังของประเทศมาเลเซียได้แก่ยี่ห้อโปรตอน และเพอร์โรดัว ซึ่งแต่ละแบรนด์มีส่วนแบ่งตลาดค่ายละ 60% ภายในประเทศมาเลเซียได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว การยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศมาเลเซียนั้นใช้ครอบคลุมทั้งรถยนต์เครื่องสันดาปและรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถอีวีที่ผลิตภายในประเทศเท่านั้น
สำหรับยอดขายรถยนต์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 นี้ ของทั้ง 5 ประเทศในกลุ่มอาเซียน พบว่า อันดับ 1 อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในอาเซียนนั้น มียอดขายราว 220,00 คัน อันดับ 2 มาเลเซียซึ่งกลายเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ในอาเซียนไปแล้วนั้น มียอดขายกว่า 202,000 คัน อันดับ 3 ประเทศไทย ซึ่งกลายเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ตกลงมาเป็นอันดับ 3 ของอาเซียนไปแล้วนั้น มียอดขายกว่า 170,000 คัน อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ มียอดขายกว่า 110,000 คัน และอันดับที่ห้าสุดท้ายเวียดนามมียอดราว 50,000 คัน