คนไทยสายมูจ่ายหนักปีละกว่า 5,000 บาท รุ่นเบบี้บูมเมอร์จับมือเนจเอ็กซ์เน้นมูจับต้องได้ เจนวาย (เดอะแบก) เน้นมูดิจิทัลวอลล์เปเปอร์บนมือถือยันแทปเล็ต เจนซีแห่ดูดวงบ่อยสุดกว่าทุกเจน

คนไทย สายมู จ่ายหนักปีละกว่า 5,000 บาท รุ่นเบบี้บูมเมอร์จับมือเนจเอ็กซ์เน้นมูจับต้องได้ เจนวาย (เดอะแบก) เน้นมูดิจิทัลวอลล์เปเปอร์บนมือถือยันแทปเล็ต เจนซีแห่ดูดวงบ่อยสุดกว่าทุกเจน

วิจัยกรุงศรี ซึ่งเป็นสำนักวิจัยที่อยู่ในธนาคารกรุงศรี เปิดเผยว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Baby Boomer จัดเป็นกลุ่มจ่ายหนักในเรื่องการซื้อสินค้าสายมู กล่าวคือมีสัดส่วนผู้ที่ใช้จ่ายเกิน 5,000 บาทต่อปีสูงกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ โดยสัดส่วนของการ จ่ายหนักจะลดหลั่นตามช่วงอายุ (รองลงมาคือ Gen X Gen Y และ Gen Z ตามลำดับ) โดยเป้าหมายของการมูสำหรับ Baby Boomer ส่วนใหญ่คือการมีสุขภาพที่ดี ดังนั้น สินค้าสายมูเพื่อสุขภาพ เช่น สร้อยข้อมือหินสุขภาพ อัญมณีมงคลเสริมพลังชีวิต จะสามารถดึงดูดความสนใจของคนกลุ่มนี้ได้มาก แต่ต้องเป็นสินค้าที่สามารถจับต้องหรือสัมผัสได้ด้วยมือ เพราะ ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่สนใจการใช้เทคโนโลยีในเรื่องที่เกี่ยว กับสายมูเท่ากับลูกค้าในกลุ่มอายุอื่นๆ

กลุ่ม Gen X และ Gen Y มีความเป็นสายมูดิจิทัล หรือสนใจในด้านเทคโนโลยีมากกว่า Baby Boomer โดยกลุ่มใหญ่มีเป้าหมายการมูเพื่อโชคลาภและทรัพย์สิน ผู้บริโภคสองกลุ่มนี้มีสัดส่วนผู้ที่จ่ายหนัก หรือจ่ายมากกว่า 5,000 บาท ต่อปี ในเรื่องการซื้อสินค้าสายมูใกล้เคียงกับกลุ่ม Baby Boomer และราว 1 ใน 3 ของสองกลุ่มนี้ยังคงใช้จ่ายซื้อ สินค้าสายมูเกิน 1,000 บาทต่อปี และใช้จ่ายไปกับบริการสายมูมากกว่า 1,000 บาทต่อปี

ดังนั้น คนสองกลุ่มนี้จึงเป็นตลาดใหญ่ของทั้งสินค้าและบริการสายมูทั้งแบบจับต้องได้และแบบใช้เทคโนโลยี เช่น สินค้าเสริม โชคลาภประเภทกำไลเครื่องประดับ วัตถุมงคล เครื่องรางดิจิทัล การดูดวงผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ โดยเฉพาะการนำ AI มาใช้ดูดวง อย่างไร ก็ตาม Gen X จะมีความคล้าย Baby Boomer ในด้านความนิยมวัตถุมงคลและเครื่องราง ส่วน Gen Y จะนิยมกับการซื้อสินค้าสายมูผ่านออนไลน์มากกว่า เช่น วอลเปเปอร์มงคลสำหรับ โทรศัพท์มือถือ

สำหรับ Gen Z ที่ยังอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนหรือเริ่มทำงาน ส่วนใหญ่มักมีเป้าหมายการมูโดยเน้นหน้าที่การงานและการเรียน โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความถี่ในการดูดวงมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ กล่าวคือมีการดูดวงอย่างน้อยทุก 3 เดือนมากที่สุดและยังสนใจแอปพลิเคชั่นดูดวง ภาพศิลปะ NFT เสริมดวงหรือการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผ่าน AR / VR มากกว่ากลุ่มอื่นๆ

ในอนาคต เมื่อ GenZ มีอายุมากขึ้นและมีรายได้มากขึ้นตลาดสินค้า/บริการสายมูดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้นก็น่าจะเติบโตขึ้นตามไปด้วย เพราะการนำความเชื่อมาผสมผสานกับนวัตกรรมที่ถูก ใจคนรุ่นใหม่ เช่น การดูดวงแบบ AI อัจฉริยะที่เรียนรู้ความต้องการของผู้ใช้งานเพื่อให้คำทำนายที่เจาะจง ก็จะยิ่งสามารถดึงดูดใจลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้ในอนาคต

ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคชาวไทยทั้งในเชิงทัศนคติและพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการสายมู โดยเก็บข้อมูลช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 ผ่านช่องทางออนไลน์ และได้รับความร่วมมือจากผู้ตอบแบบสำรวจทั้งสิ้น 1,213 คน ที่มีความหลากหลายของช่วงอายุ ระดับการ ศึกษา และรายได้ ประกอบด้วย ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 45.8 จัดอยู่ในกลุ่ม Gen Y (อายุ 28-43 ปี) และร้อยละ 37 อยู่ในกลุ่ม Gen X (อายุ 44-58 ปี) โดยจากทั้งหมด ประมาณ 2 ใน 3 เป็นเพศหญิง อีกทั้งราว 3 ใน 5 มีรายได้ต่อเดือนอยู่ในช่วง 30,000-100,000บาท ทั้งนี้ มากกว่าร้อยละ 90 ของผู้ตอบแบบสำรวจทำงานประจำและจบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles