ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเหมาะสมการซื้อรถยนต์คันใหม่ในเดือนกันยายน 2567 พบว่าอยู่ที่ระดับ 67.0 ซึ่งลดลงจากเดือนสิงหาคมที่อยู่เคยอยู่ในระดับ 70.2 โดยค่าดัชนีดังกล่าวปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 นอกจากนี้ ยังทำสถิติต่ำสุดในรอบ 19 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นมา
รายงานดังกล่าวประจำเดือนกันยายน 2567 ยังพบว่า มี 9.7% ที่ผู้บริโภคเห็นว่าช่วงเวลาในการซื้อรถยนต์คันใหม่ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ในทางตรงกันข้าม มีมากถึง 47.6% ไม่แน่ใจ และมี 42.7% ไม่เหมาะสมในการซื้อรถยนต์คันใหม่ในปัจจุบัน เมื่อย้อนกลับไปดูในเดือนสิงหาคม พบว่ามี 10.5% ผู้บริโภคเห็นว่าช่วงเวลาในการซื้อรถยนต์ใหม่ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ในทางตรงกันข้าม มีสูงมากถึง 49.2% ไม่แน่ใจ และมี 40.3% มองว่าไม่เหมาะสม
สำหรับกลุ่มตัวอย่างที่มีมากถึง 90.3% ที่มองว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมมีเพียงปานกลางถึงน้อยในการซื้อรถยนต์คันใหม่ สะท้อนได้ว่ากลุ่มตัวอย่างที่อยู่เกินกว่า 50% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 59 นั้น แสดงว่าผู้บริโภคเห็นว่าในช่วงนี้ไม่มีความหมาะสมในการซื้อรถยนต์คันใหม่
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังได้เปิดเผยอีกว่า ดัชนีความเหมาะสมในการซื้อบ้านหลังใหม่ในปัจจุบันประจำกันยายน พบว่าปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 43.9 และปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมที่ดัชนีเคยอยู่ในระดับ 47.3 ที่สำคัญ ดัชนีดังกล่าวตกค่ำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และทำสถิติต่ำสุดในรอบ 20 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นมา ขณะเดียวกัน รายงานในเดือนกันยายน 2567 ดังกล่าวนั้น ผู้บริโภคมองว่ามีเพียง 8.6% ที่มองช่วงเวลาในการซื้อบ้านหลังใหม่ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ในทางตรงกันข้ามมีถึง 26.7% ไม่แน่ใจ และมีมากถึง 64.7% มองว่าไม่เหมาะสม
เมื่อย้อนกลับไปเทียบเดือนสิงหาคม ยังพบว่ามี 9.4% ที่ผู้บริโภคเห็นว่าช่วงเวลาในการซื้อบ้านหลังใหม่ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ในทางตรงกันข้าม มีกว่า 28.3% ที่ไม่แน่ใจ 28.3% และมีมากถึง 62.1% มองว่าไม่เหมาะสมในการซื้อบ้านหลังใหม่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างมีมากถึง 91.4% เห็นว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อบ้านหลังใหม่ยังอยู่ในระดับปานกลางจนถึงน้อย