สภาทองคำโลก (World Gold Council) เปิดเผยรายงานแนวโน้มความต้องการทองคำสำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ได้ระบุว่าความต้องการทองคำผู้บริโภค (Consumer Gold Demand) ของประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่จำนวน 9 ตัน ซึ่งถือเป็นการเติบโตคิดเป็น % ที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับไตรมาส ด้านความต้องการทองคำทั่วโลกได้เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่จำนวน 1,258 ตัน และถือเป็นไตรมาสที่ 2 ของปีที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูล[1] โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ (Over-the-counter) หรือ OTCที่แข็งแกร่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึง 53% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมเป็นจำนวน 329 ตัน
นายเซาไก ฟาน (Shaokai Fan) หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) และหัวหน้าธนาคารกลางระดับโลกของสภาทองคำโลก กล่าวว่า “ทิศทางของประเทศไทยสวนทางกับแนวโน้มในระดับโลกสำหรับไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ แม้ว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม เราพบว่าความต้องการทองคำเครื่องประดับของไทยเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 2 ตัน เนื่องจากผู้บริโภคตอบสนองต่อการปรับตัวของราคาทองคำในช่วงกลางไตรมาส และใช้จังหวะนั้นเป็นโอกาสในการเข้าซื้อก่อนที่ราคาจะกลับมาสู่ทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่การลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำในประเทศไทยได้เติบโตอย่างน่าทึ่งและเพิ่มขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเป็นจำนวน 7 ตัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง และการที่แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อการลงทุนในทองคำได้รับความนิยมมากขึ้น อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของการลดความต้องการของทองคำแท่งและเหรียญในปัจจุบัน”
ความต้องการในภาคการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น รวมกับการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลาง และกระแสการไหลออกของการลงทุนที่ช้าลงสำหรับกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ทองคำสำหรับนักลงทุน ได้ผลักดันให้ราคาทองคำในไตรมาสที่ 2 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,338ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,427 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ในไตรมาสที่ 2 นี้
ด้านธนาคารกลางและสถาบันการเงินต่างๆ ได้เพิ่มการถือครองทองคำทั่วโลก 183 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ชะลอตัวลงหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่คิดเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น 6% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากรายงานผลการสำรวจด้านทองคำของธนาคารกลางโดยสภาทองคำโลก ได้ยืนยันว่าผู้จัดการด้านทุนสำรองเชื่อว่าสัดส่วนการถือครองทองคำของธนาคารกลางจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปในอีก 12เดือนข้างหน้า ซึ่งเกิดจากความต้องการที่จะปกป้องรักษาและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ภายในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความซับซ้อน