น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ แนวทางการแก้ไขปัญหานมกล่องค้างสต๊อก และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เนื่องจากชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทยจำกัด 15 แห่งทั่วประเทศ มีปัญหาน้ำนมดิบล้น และไม่สามารถระบายผลผลิตน้ำนมดิบส่วนเกินออกได้ทั้งหมด
ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และองค์กรเกษตรกรเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินการแปรรูปน้ำนมดิบเป็นนมกล่อง UHT ก็จะทำให้มีสต๊อกนมกล่องคงค้าง 113,870,387 กล่อง ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 800 ล้านบาท
คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติดังนี้ อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 งบฯกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในวงเงิน 800 ล้านบาท ให้กับ 2 หน่วยงาน คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 500 ล้านบาท และให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนอีกจำนวน 300 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อใช้ในการจัดซื้อนมกล่องค้างสต๊อกตามปริมาณจำนวนนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ดื่มนมตามโครงการนมโรงเรียนต่อไป
และ ครม.มีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง