นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จ.สงขลา เห็นชอบจัดสรรจากงบกลางปี 68 วงเงิน 4,558 ล้านบาท ใช้พัฒนาโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา) และการฟื้นฟูน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ และการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ครม. ยังอนุมัติงบฟื้นฟูน้ำท่วม 304 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ชายแดน 22 โครงการ เฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท เช่น การซ่อมถนนจัดทำเขื่อนป้องกันตลิ่ง โดย จ.ยะลา จัดทำคันกั้นน้ำริมแม่น้ำปัตตานี จำนวน 100 ล้านบาท จ.นราธิวาส 14 โครงการ 100.32 ล้านบาท และ จ.ปัตตานี 7 โครงการ 104.47 ล้านบาท
ครม.สัญจร ยังอนุมัติจ่ายเงินชดเชยผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน 2567 เพิ่มเติม โดยใช้งบกลาง เพิ่มเติมอีก 3,653 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเยียวยา 9,000 บาท/ครัวเรือน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุม ครม.สัญจร เห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 5 จังหวัด ตามข้อเสนอของ ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย รวมทั้งหมด 56 โครงการ ส่วนแรกเป็นโครงการมีความพร้อม 35 โครงการ วงเงิน 600 ล้านบาท ส่วน 21 โครงการที่เหลือ มอบหมายให้สภาพัฒน์ ประสานหน่วยงานรับโครงการกลุ่มจังหวัดเอกชนที่เหลือบรรจุไว้แผนปฏิบัติราชการประจำปี รอรับจัดสรรงบตามขั้นตอนต่อไป
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังลงพื้นที่ตรวจด่านสะเดา เพื่อเร่งรัดการปรับปรุงลานจอดรถ ณ ด่านชายแดนสำคัญในภาคใต้ เพื่อพิจารณางบพัฒนาด่านสะเดา ผ่านงบประมาณ อบจ. วงเงิน 28 ล้านบาท เมื่อเปิดใช้บริการได้แล้ว จะลดปัญหาความแออัดของรถบรรทุกสินค้าไม่ต้องเข้าไปใช้บริการในบริเวณด่านนอก เพราะมีระยะห่างเพียง 300 เมตร หวังให้ด่านนอกเป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย ส่วนด่านสะเดาเน้นให้บริการรถบรรทุก