คลัง แจง ไม่พบพิโกไฟแนนซ์ คืนใบอนุญาตที่ผิดปกติ ยอดขอใบอนุญาตมากกว่าขอคืนใบอนุญาต หนุนใช้เป็นกลไกแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ 

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ากรณีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แห่คืนใบอนุญาตของ จากผลกระทบของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 23 ยืนยันไม่พบการคืนใบอนุญาตที่ผิดปกติ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) นับเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของกระทรวงการคลังที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่รายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้ได้รับสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม และลดการพึ่งพาการกู้ยืมจากเจ้าหนี้นอกระบบ

ในขณะเดียวกัน การประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ยังเป็นช่องทางสนับสนุนให้เจ้าหนี้นอกระบบปรับเปลี่ยนมาประกอบธุรกิจการให้บริการสินเชื่อในระบบอย่างที่ถูกกฎหมาย สำหรับสถานการณ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ในปัจจุบัน จากข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568 มีผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตและเปิดดำเนินการมีจำนวนสะสมสุทธิ 1,155 ราย ใน 75 จังหวัด (ยกเว้นจังหวัดสิงห์บุรีและจังหวัดอ่างทอง) โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มีสินเชื่ออนุมัติสะสม 5,081,240 บัญชี วงเงินรวม 50,066 ล้านบาท มีสินเชื่อคงค้าง มีจำนวน 393,010 บัญชี วงเงินรวม 7,429 ล้านบาท นอกจากนี้ ในเดือนมกราคม – เดือนมีนาคม 2568 มีการให้สินเชื่อใหม่เฉลี่ยประมาณ 55,500 บัญชีต่อเดือน วงเงินเฉลี่ยประมาณ 700 ล้านบาทต่อเดือน

นอกจากนี้ ภาพรวม NPLs ของสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ พบว่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มี NPLs คิดเป็นร้อยละ 23.40 ของยอดสินเชื่อคงค้าง เมื่อเปรียบเทียบกับ NPLs ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่ร้อยละ 23.69 ของยอดสินเชื่อคงค้าง สามารถสรุปได้ว่า NPLs ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ถูกกำหนดไว้ที่ไม่เกินร้อยละ 36 เป็นอัตราที่สะท้อนถึงความเสี่ยงและต้นทุนการดำเนินงานสูงกว่าสินเชื่อปกติ เนื่องจากเป็นการให้สินเชื่อแก่กลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสถาบันการเงินทั่วไปได้

สำหรับประเด็นการคืนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์นับตั้งแต่ปี 2560 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2568 พบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์คืนใบอนุญาต จำนวน 106 ใบ โดยสาเหตุส่วนใหญ่ คือ ปัญหาสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปี 2563 ปัญหาขาดแคลนบุคลากร เป็นต้น อย่างไรก็ดี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ยังคงได้รับคำขอใบอนุญาตใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในแต่ละปีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตใหม่ ยังมีจำนวนมากกว่าผู้ที่คืนใบอนุญาต ส่งผลให้มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โฆษกกระทรวงการคลังได้เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถขยายพื้นที่การให้บริการไปในจังหวัดข้างเคียงกับจังหวัดที่สำนักงานใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตั้งอยู่ ประชาชนรายย่อยมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยเหมาะสมได้มากขึ้น หนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของประเทศ 

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles