นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.33 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่ เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.20-33.50 บาทต่อดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุม กนง.)
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท(USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นในลักษณะ Sideways Down (กรอบการเคลื่อนไหว 33.25-33.38 บาทต่อดอลลาร์) โดยแม้ว่าเงินดอลลาร์จะทยอยแข็งค่าขึ้น ตามภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ของตลาดการเงิน และการอ่อนค่าลงของสกุลเงินหลัก อย่าง เงินยูโร (EUR) ที่ถูกกดดันจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นยุโรป
อย่างไรก็ตาม เงินบาทก็ยังได้แรงหนุนจากการทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) ซึ่งได้อานิสงส์จากการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินและมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่กลับมาเชื่อว่า เฟดมีโอกาสราว 98% ที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายน
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในกรอบ 33.20-33.40 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนที่ตลาดจะทยอยรับรู้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างก็รอลุ้นผลการประชุม กนง.
โดยหาก กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ตามที่ประเมินไว้ อีกทั้งไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงโอกาสในการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งอาจต้องเห็นโทนการสื่อสารของ กนง. ที่มีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น หรือมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจแย่ลงชัดเจน ภาพดังกล่าวก็อาจทำให้เงินบาทแกว่งตัวในกรอบ sideways ตามเดิม หรือแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยได้
ในกรณีที่ กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% แต่มีการส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยลงในการประชุมครั้งหน้าที่ชัดเจนขึ้น (ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เล่นในตลาดต่างคาดการณ์ไว้) เงินบาทก็อาจอ่อนค่าลงเล็กน้อยได้ แต่หาก กนง. “เซอร์ไพรส์” ตลาดรวมถึงเรา ด้วยการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง -25bps สู่ระดับ 2.25% พร้อมเปิดโอกาสเดินหน้าลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง ก็อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้พอสมควร โดยเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก ทว่า การอ่อนค่าลงของเงินบาทก็อาจถูกชะลอลงบ้าง จากแรงขายเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้ส่งออก รวมถึงโอกาสที่บรรดานักลงทุนต่างชาติอาจทยอยเข้าซื้อบอนด์ไทยได้บ้าง ในกรณีที่ แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของไทยมีความชัดเจน และที่สำคัญ หากราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้เช่นกัน