นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ อยู่ที่ระดับ 36.96 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.82 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.85-37.10 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.81-36.97 บาทต่อดอลลาร์) ตามการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ที่ยังคงได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) โดยหลังจากที่เงินเยนญี่ปุ่นได้อ่อนค่าทะลุระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์ ก็อ่อนค่าลงต่อเนื่องจนเกือบแตะระดับ 161 เยนต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำ (XAUUSD) ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่โซนแนวรับระยะสั้นแถว 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาทประเมินว่า การผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินบาทจนทะลุโซนแนวต้าน 36.85 บาทต่อดอลลาร์ (ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากกว่าที่เราประเมินไว้) จะเปิดโอกาสให้เงินบาทสามารถผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านถัดไป แถว 37 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทอาจชะลอแถวโซนแนวต้านดังกล่าวได้ หากเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ไม่ได้อ่อนค่าลงต่อเนื่องจนทะลุระดับ 161 เยนต่อดอลลาร์ซึ่งจะยิ่งหนุนให้เงินดอลลาร์สามารถแข็งค่าขึ้นต่อได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังแรงขายสินทรัพย์ไทยก็เริ่มชะลอลงได้จริงตามที่เราประเมินไว้ และหากบรรยากาศในตลาดการเงินไม่ได้อยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง เรามองว่า แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติก็มีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่องและอาจเริ่มเห็นการกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยของบรรดานักลงทุนต่างชาติได้บ้าง นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามทิศทางราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เพราะหากราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นจากโซนแนวรับได้ +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ ซึ่งจะช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้ โดยอาจต้องรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนนี้ อย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ว่าจะออกมาแย่กว่าคาด หรือสะท้อนภาพการชะลอลงต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้หรือไม่