นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 36.19 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.90-36.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.30 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในกรอบ 36.10-36.25 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าลงบ้างในช่วงตลาดรับรู้รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ซึ่งออกมาสูงกว่าคาด ก่อนที่เงินบาทจะทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) ในช่วงตลาดรับรู้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) ที่ออกมาแย่กว่าคาด ส่วนคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่างก็ปรับตัวลดลงจากรายงานครั้งก่อน
อย่างไรก็ดี เงินบาทได้ทยอยอ่อนค่าลง หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุดได้กลับมาอ่อนค่าลงเหนือระดับ 158 เยนต่อดอลลาร์
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทมองว่า โมเมนตัมการแข็งค่ายังคงมีอยู่ แต่เริ่มอ่อนกำลังลง และต้องอาศัยปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยต้องระวังสถานการณ์การเมืองในประเทศที่อาจกดดันฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติได้
นอกจากนี้ควรจับตาทิศทางราคาทองคำและเงินหยวนจีน (CNY) ที่มีผลต่อเงินบาทในช่วงนี้ได้พอสมควร โดยในส่วนของเงินหยวนนั้นจะผันผวนไปตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์อาจชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดได้คาดหวังการลดดอกเบี้ยราว 2-3 ครั้งของเฟดในปีนี้ไปพอสมควร ทว่าบรรยากาศในตลาดการเงินที่อาจผันผวนไปตามรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนก็อาจมีผลกระทบต่อทิศทางเงินดอลลาร์ได้