ค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่า ตามแรงทำกำไรราคาทอง จับตาตลาดการเงินสหรัฐฯและยุโรป

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.75 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.50-33.90 บาทต่อดอลลาร์ (ควรระวังความผันผวนในช่วงหลังการโต้วาทีระหว่างผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และช่วงหลังรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ)โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในกรอบ 33.64- 33.77 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าโดยรวมเงินดอลลาร์จะแกว่งตัวในกรอบ Sideways แต่เงินบาทก็พอได้แรงหนุนจากการทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) ซึ่งสามารถปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซน 2,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางภาวะระมัดระวังตัวของตลาดการเงินทั้งฝั่งสหรัฐฯและยุโรป รวมถึงการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ โดยการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาท

ทั้งนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทดูชะลอลงบ้างแถวโซน 33.65 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันดิบ หลังราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลงหนักราว -2.5% จากการปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั้งในปีนี้และปีหน้าโดยกลุ่ม OPEC  

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท แม้ว่า เราจะมีมุมมองว่า เงินบาทมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงได้ ทว่า การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทนับตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันก่อนหน้านั้น ทำให้เรายังไม่สามารถมั่นใจได้ว่า เงินบาทจะพลิกกลับไปอ่อนค่าลงได้ชัดเจน จนกว่าจะเห็นการอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ดี เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจอยู่ในโหมด wait and see เพื่อรอรับรู้ทั้งการโต้วาทีของผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ทำให้ เงินบาทก็อาจแกว่งตัวในกรอบ sideways ใกล้โซน 33.65 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีโซนแนวรับแถวระดับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านแรกจะอยู่ในช่วง 33.80 บาทต่อดอลลาร์ และมีแนวต้านถัดไปในช่วง 34.00 บาทต่อดอลลาร์ 

อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงหลังตลาดรับรู้การโต้วาทีในวันนี้ เนื่องจาก หากผู้เล่นในตลาดมั่นใจมากขึ้นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็อาจหนุนให้ Trump Trades กลับมาเป็นที่สนใจของผู้เล่นในตลาดอีกครั้ง อาจหนุนให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นได้ไม่ยาก ขณะที่ หากผู้เล่นในตลาดมองว่า กมลา แฮร์ริส จะคว้าชัยชนะได้ ก็อาจกดดันเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้บ้าง

 นอกจากนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ เช่นกัน โดยเราไม่ได้กังวลในกรณีที่ อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงตามคาด หรือ มากกว่าคาด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดได้คาดหวังการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดไปมากแล้ว ทำให้ต้องระวังในกรณีที่ อัตราเงินเฟ้อกลับออกมาสูงกว่าคาด หรือไม่ได้ชะลอลงอย่างที่ตลาดคาดหวัง ซึ่งอาจนำไปสู่การทยอยปรับลดความคาดหวังต่อการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดได้บ้าง และทำให้เงินดอลลาร์ รวมถึงบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อาจปรับตัวสูงขึ้น กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาทได้ 

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles