กรมศุลกากร ประเทศจีน เปิดเผยว่า จำนวนการนำเข้า ทองคำแท่ง ในเดือนเมษายนอยู่ที่ 136 ตันซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลงมากถึง 30% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมในปีนี้ ส่งผลให้ทำสถิติการนำเข้าทองคำของจีนแผ่นดินใหญ่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบันหรือในรอบกว่า 5 เดือนครึ่ง สาเหตุจากความต้องการบริโภคทองคำภายในประเทศจีนเริ่มลดลงหลังจากที่ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่มทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะได้รับอิทธิพลสูงมากจากปัจจัยโอกาสการลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐสหรัฐที่จะมีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ก็ตาม แต่ราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้นได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการซื้อหาทองคำของคนจีนภายในประเทศจีน เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจของจีนที่เรื้อรัง ความไม่แน่นอนในอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะเงินหยวนมาเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ภาวะตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 2 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีความผันผวนและตกต่ำต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ก็มีความต้องการในการซื้อทองคำเข้าเก็บสำรองในทุนสำรองระหว่างประเทศต่อเพื่อต้องการบริหารความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจและอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดโลก
ด้านสภาทองคำโลก หรือดับเบิลยูจีซี (WGC) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ซื้อทองคำแท่งสุทธิสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศเมื่อเดือนเมษายนผ่านไปนับเป็นเดือนที่ 18 ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่ซื้อมีเพียง 60,000 ทรอยออนซ์ ซึ่งลดลงมากกว่า 62% เมื่อเทียบกับในเดือนมีนาคมที่ซื้อมากกว่า 160,000 ทรอยออนซ์ และเมื่อเทียบกับในเดือนกุมภาพันธ์ ปริมาณซื้อลดลงมากกว่า 85% จากจำนวน 390,000 ทรอยออนซ์
เมื่อรวมการซื้อทองคำของทุกธนาคารกลางทั่วโลก จะพบว่า ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ราวกว่า 290 ตัน เมื่อเทียบกับทุกไตรมาสที่ 1 ในทุกๆปีผ่านมา ด้านสมาคมค้าทองคำในจีน หรือ CGA เปิดเผยว่า จีนซื้อทองคำในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.4% หรือ 308.91 เมตริกตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา โดยซื้อทั้งทองแท่งและเหรียญทอง รวมคิดเป็น 34% ของการซื้อทองคำของผู้บริโภคชาวจีนในไตรมาสดังกล่าว