นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งคำตอบมาให้กระทรวงการคลังแล้วเกี่ยวกับการออกพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาลว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้รับผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับคำถามที่ว่ารัฐบาลจะสามารถออกพ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทแก่ประชาชนได้หรือไม่
“เราได้ส่งคำถามเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะนี้ เรายังไม่ได้รับคำตอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาในเรื่องดังกล่าว”
สำหรับวงเงินงบประมาณโครวการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบบาลกำหนดไว้ที่ 500,000 ล้านบาท โดยการออก พรบ.เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลยืนยันมีความโปร่งใส ภายใต้การตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภา ซึ่งมั่นใจว่า จะได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภา และเป็นไปตามมาตรา 53 พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พรบ.การกู้เงินดังกล่าวจะระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ใน โครงการ Digital Wallet ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และรัฐบาลจะทำการกู้เงิน ก็ต่อเมื่อ มีการนำเงินไปใช้และนำมาขึ้นเป็นเงินสด ซึ่งนี่จะเป็นการทำให้เงินในระบบทั้งหมดใหญ่ขึ้นกว่า 500,000 ล้าน ซึ่งจะหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยยะ ผสมกับงบประมาณ 100,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการที่กล่าวไปทั้งหมด และ รัฐบาลจะมีแผนจัดสรรเงินงบประมาณมาเพื่อจ่ายคืนเงินส่วนที่เป็นเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี