ชาติในเอเชียจุดสงครามท่องเที่ยวรุนแรง 9 เดือนแรกต่างชาติเที่ยวจีน-เวียดนามพุ่ง 10% แต่ลดมาไทยถึงติดลบ ที่มาก็หดใช้จ่ายเที่ยวในไทยทั้งใช้จ่ายเฉลี่ยรายวันและต่อการเดินทาง

ชาติในเอเชียจุดสงคราม ท่องเที่ยว รุนแรง 9 เดือนแรกต่างชาติเที่ยวจีน-เวียดนามพุ่ง 10% แต่ลดมาไทยถึงติดลบ ที่มาก็หดใช้จ่ายเที่ยวในไทยทั้งใช้จ่ายเฉลี่ยรายวันและต่อการเดินทาง

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สมรภูมิสงครามการท่องเที่ยวในเอเชีย หรือ Tourism war ในเอเชีย มีประเทศคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง ไทย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, เวียดนาม และสิงคโปร์ รวมถึงจีนที่กำลังเป็นอีกหนึ่งประเทศคู่แข่งสำคัญ แต่ละประเทศต่างตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านการท่องเที่ยวไว้ค่อนข้างสูงมากกว่า 10% แสดงให้เห็นถึงการวางยุทธศาสตร์เชิงรุกที่มุ่งผลักดันการท่องเที่ยวให้เป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำไปสู่ Tourism war ที่เข้มข้นยิ่งขึ้น

ในปี 2568 หลายประเทศตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวมากกว่า 10% สะท้อนถึงทิศทางเชิงรุกในการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว จากที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567 ของหลายประเทศฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงหรือสูงกว่าระดับปี 2562 แล้ว

ประเทศญี่ปุ่นตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้สูงถึง 40 ล้านคนในปี 2568 ต่อยอดหลังจากทุบสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุดในปี 2567 ที่ 36.9 ล้านคน ขณะที่สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย แม้มีฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ใหญ่มาก แต่ต่างตั้งเป้าเติบโตสูงกว่า 20% สำหรับประเทศไทย ภาครัฐได้ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้สูงถึง 39 ล้านคนในปีนี้เช่นเดียวกัน ส่วนจีน แม้ภาครัฐจะไม่ได้ประกาศเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเป็นทางการ แต่ก็เดินหน้าออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง

สมรภูมิ Tourism war เพิ่มแรงกดดันต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย ทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังหดตัวสวนทางกับหลายประเทศที่ขยายตัวแข็งแกร่ง ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 หลายประเทศสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดีจากอัตราขยายตัวที่มากกว่า 10% โดยเฉพาะจีนกับเวียดนาม ซึ่งยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินด้วย

ขณะที่ไทยยังเผชิญแรงกดดันจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความกังวลด้านความปลอดภัย อีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแข่งขันเชิงรุกจากหลายประเทศในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนไปท่องเที่ยวในประเทศของตน

การเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มทำได้ยากขึ้น เนื่องจากแต่ละประเทศมีการทับซ้อนของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ค่อนข้างสูง โดยมีนักท่องเที่ยวจากเพียง 18 ประเทศเท่านั้นที่กระจุกตัวอยู่ใน 10 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวในทั้ง 6 ประเทศในสมรภูมิ Tourism war โดยเฉพาะเวียดนามและสิงคโปร์ ที่มีตลาดหลักที่ทับซ้อนกับไทยในระดับสูง

นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา ไทยยังเผชิญกับความท้าทายในการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปในปี 2567 ที่ลดลงสวนทางกับประเทศอื่นที่ปรับเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2562 ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันในไทยก็ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งยิ่งสะท้อนความจำเป็นในการเร่งยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles