นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 18,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า จากการเปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว มูลค่าโครงการรวม 18,400 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าแผนเดิมที่วางไว้เมื่อต้นปี มีทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการโนเบิล นอร์ส กรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยวมูลค่า 1,480 ล้านบาท ,นิว เฌด ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดติดถนนราชพฤกษ์ 345 มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท,นิว อีโว พัฒนาการ คอนโดมิเนียมติดถนนพัฒนาการ และทองหล่อ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท เปิดขายไปแล้วช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเปิดนิว เอปิค อโศก-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 12,500 ล้านบาท ถือเป็นการเปิดตัวด้วยมูลค่าสูงสุดในปี 2567 บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ เปิดขายวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ สร้างยอดขายกว่า 50%
นายธงชัยกล่าวว่า ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 มียอดขายรวมสะสมทุกโครงการกว่า 14,300 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและใกล้เคียงกับช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 ที่เคยทำสถิติยอดขายสูงสุด โดยตลาดต่างชาติเป็นตัวหลักในการผลักดันยอดขายในปีนี้ คิดเป็น 60% ของยอดขายรวมทั้งปี 18,000 ล้านบาท หรือประมาณ 9,600 ล้านบาท ล่าสุดยอดขาย 9 เดือนทำได้แล้วจำนวน 1,688 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 8,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 146% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี 4 ประเทศเป็นตลาดหลัก ได้แก่ ไต้หวัน พม่า จีน ฮ่องกง และในปี 2568 คาดว่าตลาดต่างชาติจะเติบโต 200% ซึ่งมีปัจจัยจากภูมิรัฐศาสตร์และสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการมาของทรัมป์ น่าจะส่งผลดีต่อตลาดคอนโดเนื่องจากอาจจะเกิดการย้ายมาอยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้นและสนับสนุนให้ตลาดต่างชาติขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
”ลูกค้าชาวไต้หวันเริ่มมามากขึ้นหลังโควิด เกิดจากสงครามยูเครนที่เป็นแรงผลักให้คนออกมาซื้ออสังหาฯอยู่ต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งไทยเป็นหมุดหมายอันดับต้น และกรณีของทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีแล้ว จะทำให้ตลาดคอนโดไทยน่าจะดีขึ้น ซึ่งต่างชาติสามารถซื้อได้ 49% อยู่แล้วตามกฎหมาย ในขณะนี้มีบางโครงการของเรามียอดขายต่างชาติใกล้เต็มโควต้า 49% แล้ว คือ ดิ เอ็มบาสซี ไวร์เลส ราคาขายยูนิตละ 10 ล้านบาทอัพ หากเต็มแล้วจะขยายโควต้าเป็นการเช่ายาว และนิว เอปิค อโศก-พระราม 9 เป็นอีกโครงการที่ต่างชาติสนใจซื้อและใกล้เต็มโควต้าเพราะเป็นทำเลที่ต่างชาตินิยมอยู่อาศัย ซึ่งปีนี้ยอดขายต่างชาติมีสัดส่วนมากกว่าลูกค้าคนไทย อยู่ที่ 60:40“นายธงชัยกล่าว
นายธงชัยกล่าวว่า ในส่วนของยอดโอนกรรมสิทธิ์ในสิ้นปีนี้คาดว่าจะแตะอยู่ที่ระดับ 11,000 ล้านบาท เติบโต 67% จากปีก่อน โดยคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 แนวโน้มเริ่มดีขึ้น จากปัจจัยบวกทั้งการท่องเที่ยวที่เติบโต ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา เทรนด์ดอกเบี้ยขาลง นโยบายแก้หนี้ครัวเรือนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯของรัฐบาล โดยประเมินว่าทำให้ตลาดอสังหาจากการซื้อของลูกค้าในประเทศเติบโต 10-15% และตลาดต่างชาติเติบโต 20%
ส่วนนโยบายเอ็นเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ รวมถึงกาสิโนถูกกฎหมายว่า ถ้าหากรัฐบาลสามารถเดินหน้าโครงการได้ จะเป็นอีกเครื่องยนต์หนึ่งในการมาเติมเต็มในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย จากเดิมที่มีเฉพาะเรื่องเมดิคอลฮับ และการท่องเที่ยว ซึ่งโนเบิลก็มีความสนใจ เนื่องจากกลุ่มบีทีเอสซึ่งเป็นพันธมิตรลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ มีแผนจะพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่สนามบินอู่ตะเภาอยู่แล้ว คาดว่าหากมีความชัดเจนจากรัฐบาลออกมา น่าจะมีความคืบหน้า