ช้อปปิ้งสไตล์ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง มีมากขึ้นในไทย กว่า 35% ของร้านโชว์ห่วยยอมรับคนไทยนิยมมากขึ้น

ช้อปปิ้ง สไตล์ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง มีมากขึ้นในไทย กว่า 35% ของร้านโชว์ห่วยยอมรับคนไทยนิยมมากขึ้น

ไอดีซี ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมและธุรกิจเทคโนโลยีชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 5 ของโลก และเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลมีความแข็งแกร่ง ซึ่งประชากรและระบบธุรกิจผูกติดกับระบบออนไลน์ในหลายด้าน รวมถึงการใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และการชำระธุรกรรมการเงินดิจิทัลที่จะเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับประเทศไทย พบว่าข้อมูลที่น่าสนใจของการจับจ่าย และการใช้ระบบชำระเงินดิจิทัลที่น่าสนใจ ดังนี้ การเปลี่ยนแปลงของส่วนแบ่งตลาดวิธีการชำระเงินสำหรับธุรกรรมอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยระหว่างปี 2023 ถึง 2028 จะเป็นในรูปแบบให้บริการซื้อก่อน จ่ายทีหลังมีสัดส่วนเพิ่ม 3% กระเป๋าเงินมือถือทรงตัว ระบบชำระเงินในประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 4% บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1% และอื่นๆ จะเสียสัดส่วนลง -7%

การยอมรับวิธีการชำระเงินต่างๆ ของร้านค้าในปี 2024 พบว่า 79% รับบัตรเครดิต/เดบิต มี 75% รับการชำระเงินออฟไลน์ เช่น เก็บเงินปลายทาง/ชำระที่เคาน์เตอร์ ถัดมา 58% รับกระเป๋าเงินมือถือ/อีวอลเลต ตามด้วย 37% รับการโอนเงินผ่านธนาคาร มี 29% รับการชำระเงินแบบเรียลไทม์/QR และ 10% รับการชำระเงินผ่านบริการซื้อก่อน จ่ายทีหลัง อย่างไรก็ตาม บริการซื้อก่อน จ่ายทีหลังได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยใน 12 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังพบว่า 35% ของร้านค้าพบว่าความนิยมของบริการซื้อก่อน จ่ายทีหลังเพิ่มขึ้น

34% ของร้านค้าสังเกตเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส

33% ของร้านค้าสังเกตเห็นความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการใช้สกุลเงินดิจิทัลสำหรับธุรกรรม

32% ของร้านค้าระบุว่าการชำระเงินแบบไร้สัมผัสเป็นกลยุทธ์สำคัญต่อธุรกิจในอนาคต

30% ของร้านค้าระบุว่าการชำระเงินด้วยเสียงเป็นกลยุทธ์สำคัญต่อธุรกิจในอนาคต

27% ของร้านค้าระบุว่าโซลูชั่นการชำระเงินข้ามพรมแดนเป็นกลยุทธ์สำคัญต่อธุรกิจในอนาคต

ไอดีซี เปิดเผยในภาพรวมว่า ภายในปี 2571 ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนจะเติบโตมีมูลค่า 325,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11.21 ล้านล้านบาท ปัจจัยบวกจากการชำระเงินดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การชำระเงินดิจิทัลจะมีถึง 94% ของการชำระเงินทั้งหมดในตลาดอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ การชำระเงินภายในประเทศ และกระเป๋าเงินดิจิทัล จะมีบทบาทสำคัญในการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซในอาเซียน ซึ่งพบว่ามีการใช้บัตรเครดิตน้อยกว่า

ทั้งนี้ ในปี 2566 ไอดีซีประเมินว่ามีเพียง 55% ของระบบ POS ในประเทศไทยรองรับ NFC เมื่อเทียบกับมาเลเซียที่ 93% และสิงคโปร์ที่ 95% เท่ากับว่าตลาดการชำระเงินแบบไร้สัมผัสในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles