นายอีแวน เอสพิโนซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ ซึ่งเป็นค่ายผลิตรถยนต์มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่าหลังจากเมื่อวานนี้ได้แถลงผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2024 ไปแล้วนั้น ความจริงเป็นที่ชัดเจนแล้ว นิสสันต้องให้ลำดับความสำคัญสูงสุดในการปรับปรุงตัวเอง ด้วยความเร่งด่วนและความรวดเร็วที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ผลการดำเนินงานที่ขาดทุนสุทธิในปีงบประมาณ 2024 นับเป็นการขาดทุนสุทธิที่มากที่สุดในรอบ 25 ปี หรือตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทเรโนลต์ เอส เอ ผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศสตัดสินใจเข้าช่วยเหลือกิจการของนิสสันมอเตอร์ที่ตกต่ำและเลวร้ายถึงขั้นเกือบล้มละลาย
นโยบายในการตัดลดค่าใช้จ่ายของนิสสันมอเตอร์ที่ได้ประกาศไปเมื่อวานนี้ 13 พฤษภาคม 2025 ทำให้เห็นว่าจากนี้ไปอีก 2 ปีงบประมาณของนิสสันตกอยู่ในภาวะตัดลดและควบคุมค่าใช้จ่ายทุกประเภท ด้วยความคาดหวังว่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ถึง 500,000 ล้านเยน หรือกว่า 113,750 ล้านบาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังการผลิตรถยนต์ของนิสสันทั่วโลกลดลงไปมากถึง 1 ล้านคันหรือ -28.57% จากในปี 2024 ผ่านมา ซึ่งนิสสันมีการผลิตรถยนต์ทั่วโลกที่ 3.5 ล้านคัน ต้องลดลงเหลือ 2.5 ล้านคันในปีนี้ สาเหตุจากได้ประกาศปิดโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ถึง 7 แห่งในปี 2025 โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าโรงงานแห่งใดที่อยู่ในญี่ปุ่น หรืออยู่ต่างประเทศของนิสสันที่ถูกปิดตัวลง
นายอีแวน เอสพิโนซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ ตอบคำถามที่ว่ารู้สึกเสียใจหรือไม่กับการเจรจากับฮอนด้าล้มเหลวในยุคของอดีตซีอีโอนายมาโกโตะ ยูชิดะ ที่ผ่านไป ซีอีโอนิสสัน กล่าวว่า ฮอนด้ายังคงเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลายๆแห่งสำหรับนิสสัน สำหรับหุ้นส่วนใหม่ของนิสสันนั้น ยังไม่สามารถจะบอกระยะเวลาได้ แต่นิสสันกำลังทำงานอย่างแข็งขันในเรื่องดังกล่าว ฮอนด้ากับนิสสันร่วมทำงานในหลายโครงการด้วยกันในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องรถอีวีและแบตเตอรี่ไฟฟ้า
ซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยว่า นโยบายและมาตรการภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ไม่ได้ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของนิสสันในช่วงไตรมาสที่หนึ่งของปีงบประมาณอยู่ที่ 450,000 ล้านเยน หรือกว่า 102,375 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้ถูกนำไปคิดรวมในการคาดการณ์ผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิในช่วงไตรมาสที่หนึ่งที่ 200,000 ล้านเยน หรือกว่า 45,500 ล้านบาท
ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน หรือซีเอฟโอ นายเจรามี พาปิน เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์นิสสันจากโรงงานที่ผลิตในประเทศเม็กซิโกและ ญี่ปุ่นคิดรวมกันเป็น 45% ของยอดขายรถยนต์ที่อยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกา ดังนั้นมาตรการภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อรถยนต์นิสสันที่ส่งออกจากประเทศเม็กซิโกจำนวน 300,000 คันและกระทบรถยนต์นิสสันที่ส่งจากประเทศญี่ปุ่น 120,000 คัน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ ซึ่งทำงานกับนิสสันมาตั้งแต่ปี 2003 หรือเมื่อ 22 ปีผ่านมา เปิดแถลงผลการดำเนินงานทั่วโลกประจำปีงบประมาณ 2024 ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ พบว่า มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 670,000 ล้านเยน หรือ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 148,500 ล้านบาท ส่งผลให้เป็นผลผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิที่มากที่สุดครั้งหนึ่งประวัติการณ์ของนิสสัน มอเตอร์ ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า ผลการดำเนินงานจะขาดทุนสุทธิสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ถึง 750,000 ล้านเยน หรือ 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 168,300 ล้านบาท