กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สต็อกข้าวคลังเก็บข้าวของบริษัทเอกชนประจำเดือนมิถุนายน พบว่ามีอยู่ที่ 1.56 ล้านตัน ทำสถิติสต็อกข้าวเอกชนต่ำสุดในรอบหลายปีผ่านมา สำหรับราคาข้าวในสิงหาคมผ่านมาอยู่ที่ระดับ 16,133 เยนต่อ 60 กก. หรือราว 3,550 บาทต่อ 60 กิโลกรัม ซึ่งมีราคาเพิ่มขึ้น +3% เทียบจากเดือนมิถุนายน และเพิ่มสูงขึ้น +5% นับตั้งแต่ต้นปี 2024 นี้
กระทรวงฯ ยอมรับว่าในทั้งฤดูร้อนปีนี้ ประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะการขาดแคลนข้าว ส่งผลให้ข้าวบรรจุถุงตามซูเปอร์มาร์เก็ตขาดตลาด และขาดสต็อกด้วย เนื่องจากความต้องการบริโภคข้าวในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการผลิตข้าวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลปีนี้ทำสถิติการขาดแคลนข้าวในญี่ปุ่นในรอบกว่า 20 ปี
นายออสการ์ ทีจาครา นักวิเคราะห์อาวุโส ธนาคารอาหารและการเกษตรราโบแบงก์ Rabobank คาดการณ์ว่า การบริโภคข้าวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจาก 19,000 ตัน ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม 2022 ถึงมิถุนายน 2023 รวมทั้งสิ้นเป็น 51,000 ตัน และตัวเลขดังกล่าวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 ถึงมิถุนายน 2024 เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการบริโภคข้าวของชาวต่างประเทศในญี่ปุ่นยังน้อยกว่าการบริโภคข้าวของชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีการบริโภคกว่า 7 ล้านต้น
ภาวะข้าวขาดแคลนในประเทศญี่ปุ่นยังมีมาจากอีกหนึ่งสาเหตุที่น่าสนใจ คือ ประชาชนชาวญี่ปุ่นเริ่มกักตุนข้าว เพิ่มเพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือฤดูไต้ฝุ่นของญี่ปุ่น และการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ตามที่ได้มีการคาดการณ์ในช่วงหลายเดือนผ่านมา ขณะนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศญี่ปุ่นต้องประกาศจํากัดการซื้อข้าวเพียง 1 ถุงต่อ 1 คนเท่านั้น
ขณะที่ปัญหาจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีจำนวนน้อยลงต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเเจชาวนาญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเริ่มเกษียณอายุ ส่วนคนหนุ่มสาวทำการเกษตรลดน้อยลง สอดรับกับภัยแล้งในญี่ปุ่นยังส่งผลต่อผลผลิตอีกด้วย ปัจจุบันญี่ปุ่นกําหนดภาษี 778% สําหรับข้าวนําเข้าเพื่อปกป้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และกำหนดเพดานการนำเข้าข้าวไว้ที่ 682,000 ตันต่อปีเท่านั้น
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่น 8 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าเติบโตแรงต่อเนื่องด้วยยอดสะสมกว่า 24,007,900 คน เพิ่มขึ้น 58% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023 และเติบโตมากถึง 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่จะเกิดโรควิกฤตการณ์โควิด-19