นายเจษฎาพันธุ์ จันทขันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด ประจำประเทศไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ของ Trip.com (ทริปดอทคอม) เปิดเผยว่า พบว่ามีความสนใจร่วมกันอย่างมากในการเดินทางระหว่างสองประเทศ โดยในชั่วโมงถัดมาหลังการแถลงข่าวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย เมื่อ 2 ม.ค.ที่’ไทย–จีน‘ มีข้อตกลง ‘ยกเว้นวีซ่าถาวร‘ ระหว่างกัน เริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป ทำให้มี“ยอดการค้นหา” (Search Volume) คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับ “ประเทศไทย” บนแพลตฟอร์มในจีนของทริปดอทคอมกรุ๊ป เพิ่มมากกว่า 90% เมื่อเทียบกับชั่วโมงก่อนหน้าการแถลง เฉพาะยอดการค้นหาเที่ยวบินจาก “เซี่ยงไฮ้” และ “ปักกิ่ง” สู่กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ในทันที
ขณะเดียวกัน ยอดการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับ “ประเทศจีน” บนแพลตฟอร์มฝั่งไทยของทริปดอทคอม เพิ่มขึ้นมากกว่า 80% ในชั่วโมงถัดมาหลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ โดยจุดหมายปลายทางอย่าง กว่างโจว เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง คุนหมิง และเมืองอื่นๆ ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ใช้งานชาวไทย
“ในฐานะพันธมิตรของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมวัฒนธรรมระหว่างประเทศของจีน (China International Culture Association : CICA) ในการโปรโมตตลาดท่องเที่ยวขาเข้า (Inbound) ของทั้งสองประเทศ ทริปดอทคอมกรุ๊ปมองว่านโยบายที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวนี้ เป็นประโยชน์ต่อการเดินทางระหว่างประเทศอย่างแน่นอน เพราะช่วยลดอุปสรรคในกระบวนการวางแผนการเดินทาง เราตั้งตาคอยจุดเริ่มต้นข้อตกลงยกเว้นวีซ่าถาวรระหว่างกันของทั้งสองประเทศในเดือน มี.ค. 2567”
ด้านฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทย–จีน ว่าด้วยการยกเว้นวีซ่าของประชาชนสองประเทศอย่างถาวร จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวระหว่างชาวไทยและชาวจีนอย่างมาก นำไปสู่การเพิ่มเที่ยวบินระหว่างสองประเทศมากขึ้น ทำให้ “ค่าตั๋วเครื่องบิน” ที่ปัจจุบันราคาสูงขึ้นหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 ปรับลดลงได้ จูงใจให้ “นักท่องเที่ยวจีน” เดินทางมากขึ้น เกิดการกระจายตัว และสามารถทำการตลาดเข้าถึงกลุ่มใหม่และพื้นที่ใหม่ๆ โดยเฉพาะ “เมืองรอง” ของประเทศจีนมากขึ้น
สำหรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนที่ ททท. ตั้งเป้าจำนวน “8 ล้านคน” ในปี 2567 หลังจากตลอดปี 2566 มีจำนวนเดินทางเข้าไทย 3.51 ล้านคน พอมีข้อตกลงยกเว้นวีซ่าถาวรระหว่างไทย–จีนแล้ว ททท.จะเพิ่มเป้านักท่องเที่ยวจีนได้อีกหรือไม่นั้น ต้องขอหารือกับ “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก่อน พร้อมประชุมกับผู้บริหารและผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ในจีนทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง เฉิงตู และกว่างโจว เพื่อทบทวนแผนการทำตลาดอีกครั้ง