เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของรัฐบาลจีน เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งยกเลิกห้ามสายการบินสัญชาติจีนรับมอบเครื่องบินโบอิ้งที่กำลังรอส่งมอบมาถึงประเทศจีน การยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในวันนี้ให้มีผลทันทีหลังจากที่ได้ประกาศใช้มาเป็นระยะเวลาครบหนึ่งเดือนเต็มหรือนับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2025 สำหรับการเตรียมการหรือเตรียมความพร้อมในการที่จะกลับไปรับการส่งมอบเครื่องบินของโบอิ้งของแต่ละสายการบินสัญชาติจีน ไม่ว่าจะนำมาให้บริการการบินภายในประเทศ หรือบินระหว่างประเทศ ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการดำเนินงานของแต่ละสายการบิน และบริษัทที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นสะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองจากฝั่งรัฐบาลจีนที่มีต่อความสำเร็จในการเจรจาภาษีและการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านไป รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศประกาศให้มีการปรับลดอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ลงฝ่ายละ 115% รัฐบาลสหรัฐอเมริกาลดการจัดเก็บอัตราภาษีดังกล่าวจาก 145% มันเหลือ 30% สอดรับกับรัฐบาลจีนลดอัตราการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจาก 125% มาเหลือ 10% และให้เป็นการดำเนินการเพียงชั่วคราว 90 วันโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โบอิ้งไม่สามารถดำเนินการจัดส่งเครื่องบินโบอิ้งที่รอการส่งมอบให้กับสายการบินสัญชาติจีนได้ อย่างไรก็ตาม มีสายการบินอื่นๆ ในประเทศมาเลเซีย และซาอุดิอาระเบีย ที่แสดงความสนใจจะรับมอบเครื่องบินทั้งหมด ซึ่งไม่สามารถจัดส่งให้กับลูกค้าสายการบินสัญชาติจีนได้ แต่โบอิ้งยังคงไม่ดำเนินการตัดสินใจใดใดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งนี้เครื่องบินโบอิ้งที่จะต้องจัดส่งให้กับสายการบินสัญชาติจีนมีทั้งหมด 50 ลำภายในปี 2025 นี้ จีนได้รับการคาดการณ์ว่า มีสัดส่วนมากถึง 20% ของความต้องการซื้อเครื่องบินพาณิชย์ภายใน 20 ปีจากนี้ไป
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2025 รัฐบาลจีนประกาศคำสั่งให้บรรดาสายการบินสัญชาติจีนงดรับการส่งมอบเพิ่มเติมของเครื่องบินยี่ห้อโบอิ้ง ซึ่งผลิตโดยบริษัทโบอิ้ง อินคอร์ปอเรชั่น จากสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจีนให้เหตุผลว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศมาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs สูงถึง 145% กับสินค้านำเข้าจากประเทศจีน
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนร้องขอไปยังบรรดาสายการบินสัญชาติจีนให้ยกเลิกการซื้ออุปกรณ์และอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินโบอิ้งของสหรัฐอเมริกาด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาหาแนวทางที่จะให้ความช่วยเหลือแก่สายการบินจีนที่เช่าเครื่องบินของโบอิ้งและกำลังเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
คำสั่งดังกล่าวของรัฐบาลจีนในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาด้วยการขึ้นภาษีสูงถึง 125% กับสินค้าและสิ่งอื่นใดก็ตามที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา จึงทำให้ต้นทุนในการผลิตเครื่องบิน รวมถึงต้นทุนในการผลิตอุปกรณ์และอะไหล่เครื่องบินของโบอิ้งสูงขึ้นกว่า 2 เท่า จึงทำให้สายการบินสัญชาติจีนไม่สามารถยอมรับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นมากได้ คำสั่งของรัฐบาลจีนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสายการบินสัญชาติจีนที่ใช้วิธีเช่าซื้อเครื่องบินโบอิ้งมาทำการบิน ทำให้รัฐบาลจีนเตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านการเงินให้กับสายการบินที่เผชิญปัญหาต้นทุนที่สูงมากขึ้น
ในขณะนั้น โบอิ้ง อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเครื่องบินโบอิ้งที่รอส่งมอบให้กับลูกค้าสายการบินสัญชาติจีนรวม 10 ลำ เป็นรุ่น 737 แม็กซ์ เช่น สายการบินไชน่า เซ้าท์เทิร์น แอร์ไลน์ สายการบินแอร์ ไชน่า และสายการบินเซี้ยะเหมิน แอร์ไลน์ จำนวนสายการบินละ 2 ลำ ในสัปดาห์ที่แล้ว สายการบินจุนเหย่า แอร์ไลน์ ได้แจ้งให้มีการเลื่อนการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 787-9 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบใน 3 สัปดาห์
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินในจีน เปิดเผยว่า คำสั่งของรัฐบาลจีนในครั้งนี้อาจดูเหมือนว่าค่ายแอร์บัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินจากประเทศฝรั่งเศสจะได้รับประโยชน์อย่างมาก รวมถึงจีนสามารถผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์มีชื่อว่าโคแมก (COMAC) ในรุ่น C919 ที่มีหน้ากว้างปานกลาง ซึ่งอาจนำมาเติมเต็มฝูงบินจีนนั้น
แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่าฝูงบินของสายการบินสัญชาติจีนที่มีจำนวนหลาย 100 ลำในปัจจุบันล้วนเป็นเครื่องบินโบอิ้งของสหรัฐอเมริกามากกว่าเครื่องบินแอร์บัสของฝรั่งเศส ดังนั้น ความจำเป็นในการใช้อุปกรณ์ ชิ้นส่วน และอะไหล่เครื่องบินโบอิ้ง จึงมีความจำเป็นจำนวนมากมากมาย รวมถึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับบริการการดูแล บำรุงรักษา และซ่อมแซมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของค่ายโบอิ้งอีกด้วย
