ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,518.47 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +6.56 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +35.98 หรือ +1.45% ในเดือนสิงหาคม 2024 นี้ ราคาทองคำส่งมอบทันที(Spot) ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 21 ปิดที่ 2,516.01 วันที่ 20 ปิดที่ 2,510.35 และวันที่ 16 ปิดที่ 2,509.65 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สำหรับสถิติราคาสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่อยู่ที่ระดับ 2,531.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม
ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,555.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +8.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และเป็นครั้งที่ 6 ในเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากนี้ ยังส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +37.10 หรือ +1.5% ในเดือนสิงหาคม 2024 นี้
ราคาทองคำล่วงหน้า(Future) ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 6 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 26 ปิดที่ 2,555.20 วันที่ 20 ปิดที่ 2,550.60 วันที่ 19 ปิด 2,541.30 วันที่ 16 ปิดที่ 2,537.80 วันที่ 13 ปิดที่ 2,507.80 วันที่ 12 ปิดที่ 2,504 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาทองคำทะยานกว่า +22%
ราคาทองคำตลาดโลกในสัปดาห์ผ่านไปปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทองคำ +2.8% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนเป็นต้นมา นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งทะยาน +22% มีแนวโน้มสูงที่จะทำสถิติผลตอบแทนราคาทองคำที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปีกว่า หรือนับตั้งแต่ปี 2020 นอกจากนี้ ทองคำปิดในเดือนกรกฎาคมพุ่งสูงกว่า 4% ทำสถิติราคาทองคำรายเดือนมากที่สุดในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมา
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกร่วงอ่อนค่าถึง 0.8% ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น อายุ 10 ปี ลดต่ำลง หลังจากในคืนผ่านมา นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด กล่าวแสดงมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐบนเวทีการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแคนซัส ซิตี้ ที่แจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง กล่าวว่า “เวลาได้มาถึงสำหรับการปรับเปลี่ยนดอกเบี้ยนโยบาย ทิศทางมีความชัดเจน ห้วงเวลาและความรวดเร็วของการลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่กำลังมาถึง มุมมองที่แปรเปลี่ยนมากขึ้น และสมดุลของความเสี่ยง ความมั่นใจของผมเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่บนเส้นทางที่สม่ำเสมอในการกลับไปยังเป้าหมายที่ 2%
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ในเดือนกันยายนเป็น 67.5% ขณะที่ โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.5% ในกันยายนอยู่ที่ 32.5%