ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,365.09 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +28.22 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.9% ขณะที่ราคาสูงสุดระหว่างวันในวันศุกร์ที่ 12 เมษายนผ่านมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,419.79 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,383.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +8.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.4%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดเพิ่มสูงขึ้นถึง +1% และยังเป็นราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ต่อเนื่อง ส่งผลทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่ปิดขึ้นยาวนานที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา เมื่อจบเดือนมีนาคมผ่านไป ทองคำตลาดโลกพุ่งทะยาน 9% ทำสถิติทองคำรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2020 นอกจากนี้ ราคาทองคำปิดขึ้น +8% ในไตรมาสที่ 2 ส่งผลเป็นราคาทองคำที่ปิดบวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 อีกด้วย
สาเหตุจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยเฉพาะการติดตามท่าทีของอิสราเอลที่จะตอบโต้กลับอิหร่านหรือไม่ ท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.2% หลังจากตัวเลขยอดขายปลีกเดือนมีนาคมในสหรัฐเพิ่มขึ้นเหนือคาดการณ์ สะท้อนความกังวลว่าการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้อาจล่าช้า ธนาคารยักษ์ใหญ่เริ่มทบทวนจำนวนครั้งที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลดน้อยลงกว่าที่คาดไว้ โดยมองว่าจะลดดอกเบี้ยเพียงไม่ถึง 2 ครั้งจากเดิมคาดว่าจะลด 3 ครั้งในปีนี้
สภาทองคำโลก หรือดับเบิลยูจีซี (WGC) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ซื้อทองคำแท่งอีก 160,000 เมตริกตันเข้าสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคม 2024 นับเป็นเดือนที่ 17 ต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ และความเสี่ยงเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ธนาคารกลางอินเดีย ตุรกี คาซัคสถาน และอื่นๆในทวีปยุโรปตะวันออกเพิ่มการซื้อทองคำเข้าทุนสำรองระหว่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนมิถุนายนนี้อยู่ที่ 53% จากเดิมที่ 52%