ตลาดรถฟิลิปปินส์จ่อแซงไทย มีลุ้นขึ้นใหญ่อันดับ 3 อาเซียน จบไตรมาส 3 ยอดขายรถในไทยดิ่งเหว 28% ยอดขายทั้ง 5 ชาติในอาเซียนซึมลง 7% ขายได้กว่า 736,000 คัน

ตลาดรถ ฟิลิปปินส์จ่อแซงไทย มีลุ้นขึ้นใหญ่อันดับ 3 อาเซียน จบไตรมาส 3 ยอดขายรถในไทยดิ่งเหว 28% ยอดขายทั้ง 5 ชาติในอาเซียนซึมลง 7% ขายได้กว่า 736,000 คัน

นิกเคอิ รายงานว่ายอดขายรถยนต์ในภาพรวมของประเทศไทยในไตรมาส 3 พบว่ามียอดขายดำดิ่งแรงถึง -28% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 สอดรับกับยอดขายเปรียบเทียบไตรมาส 2 ในปีนี้ ปรากฏว่ามียอดขายตกต่ำถึง -9.5% ที่สำคัญ นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 ยอดขายรถยนต์ในไทยตกต่ำยาวนานมาถึง 16 เดือนติดต่อกัน ส่งผลให้เป็นที่น่าจับตามองอย่างมากระหว่างตลาดรถยนต์ไทยกับตลาดรถยนต์ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งในปัจจุบันมีขนาดใหญ่อันดับ 4 ของอาเซียนนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดรถยนต์ฟิลิปปินส์ในภาพรวมจะแซงประเทศไทยขึ้นมามีขนาดใหญ่อันดับ 3 หากเป็นอย่างนั้นจริง ทำให้ในปี 2024 นี้ ประเทศไทยสูญเสียขนาดตลาดรถยนต์ถึง 2 ครั้งให้กับ 2 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ เมื่อไตรมาสที่ 2 ผ่านไป มาเลเซียแซงขึ้นมามีขนาดใหญ่อันดับ 2 และฟิลิปปินส์กำลังจะขึ้นมามีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของอาเซียน

ตลาดรถยนต์ประเทศฟิลิปปินส์ในไตรมาสที่ 3 ปรากฏว่า ทำยอดขายในประเทศได้เพิ่มขึ้นถึง +5.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 นอกจากนี้ ยังมียอดขายพุ่งทะยานมากถึง +11% เมื่อเปรียบเทียบกับในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ดังนั้น ยอดขายรถยนต์ตลาดฟิลิปปินส์มีช่วงห่างเพียง 12,604 คันเมื่อเทียบกับยอดขายของตลาดรถยนต์ไทย ในขณะที่เมื่อช่วง 2 ปีผ่านมา ยอดขายรถยนต์ของประเทศฟิลิปปินส์ห่างมากถึง 113,111 คัน เมื่อเทียบกับยอดขายตลาดรถยนต์ของไทย

สาเหตุที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ในตลาดประเทศฟิลิปปินส์เติบโตมากขึ้นในไตรมาสที่ 3 เป็นผลจากประชาชนชาวฟิลิปปินส์มีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจ และมีกำลังซื้อมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางฟิลิปปินส์ลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงเมื่อเดือนสิงหาคมผ่านไป นอกจากนี้ ชาวฟิลิปปินส์มีกำลังซื้อเพิ่มเติมจากการส่งรายได้จำนวนมากจากแรงงานชาวฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลจากค่าเงินเปโซ ฟิลิปปินส์ ร่วงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่ผ่านมา

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถึงแม้ว่าผู้ผลิตรถอีวีแบรนด์จีนจะยังไม่ได้ผลิตรถอีวีในประเทศเต็มกำลังการผลิตก็ตาม แต่ขณะนี้ รถอีวีในประเทศไทยเกิดภาวะล้นตลาด จำนวนรถที่ขายไม่ออกมีจำนวนมากท่ามกลางกำลังซื้อที่อ่อนแอมาก จึงทำให้เกิดสงครามราคาในตลาดรถยนต์ด้วยค่ายรถอีวีจีนลดราคา ทำให้ผู้บริโภคในไทยชะลอการซื้อรถยนต์ออกไป เพราะคาดหวังว่าจะต้องลดราคาขายอีกในอนาคต นายบุญชู ชัยเจริญ คนไทยอายุ 40 ปี มีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว บอกว่า ผมกำลังคิดจะซื้อรถอีวีเป็นรถคันใหม่ เพราะดูทันสมัย แต่กังวลว่าผู้ผลิตจะลดราคาเมื่อผมตัดสินใจซื้อไป

นอกจากนี้ ปัจจัยลบอื่นๆ ได้แก่ ภาวะหนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 2 ยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 89.6% ของจีดีพี ขณะที่หนี้เสียในเดือนกรกฎาคมมีมูลค่าสูงถึง 1.19 ล้านล้านบาท ในจำนวนพบว่ามี 22% เป็นหนี้เสียของตลาดรถยนต์ในไทย รวมถึงการปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารยังคงอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ใน 5 ประเทศอาเซียนช่วงไตรมาสที่ 3 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 763,000 คัน ลดลง -5% เทียบช่วงเดียวกันกับในปี 2023 เมื่อดูยอดขายในแต่ละ 5 ประเทศ เปรียบเทียบระหว่างไตรมาส 3 ปีนี้กับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ปรากฏว่า มี 2 ประเทศที่มียอดขายเพิ่มขึ้น คือ เวียดนามเพิ่มขึ้นสูงถึง +25% ฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น +15% ในขณะที่อีก 3 ประเทศมียอดขายลดลง ได้แก่ ไทยดิ่งลึกมากที่สุดถึง -28% อินโดนีเซียร่วงถึง -10% และมาเลเซียลดลงเบาบางเพียง -1%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles