ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 43,297 จุด +390 จุด หรือ +0.91% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,040 จุด +65 จุด หรือ +1.10% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 20,031 จุด +266 จุด หรือ +1.35% ท่ามกลางตลาดเปิดทำการเพียงครึ่งวันเพื่อรับวันคริสต์มาสอีฟในคืนผ่านมา และจะปิดทำการในวันที่ 25 วันคริสต์มาส ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นนาสแดค กลับมาปิดเหนือระดับ 43,000 จุด, 6,000 จุด และ 20,000 จุดครั้งใหม่
สาเหตุจากนักลงทุนเข้าเก็บหุ้นก่อนถึงวันพุธที่จะปิดทำการเนื่องจากเป็นวันคริสต์มาส ท่ามกลางความมั่นใจเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ตัวเลขรายจ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งไม่สูงเกินที่คาดการณ์ไว้ และยังน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับในเดือนตุลาคมผ่านมา ขณะที่ เมื่อไปกับช่วงเดียวกันในปี 2023 พบว่าตัวเลขดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นที่ 2.4% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวต่ำ 2.5% ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปิดในสัปดาห์นี้ ทำสถิติแข็งค่ารายสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ 3 ต่อเนื่อง
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งปิด -2.25%, -1.99% และ -1.78% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านไปนับเป็นดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ที่ร่วงติดต่อกันถึง 3 สัปดาห์ สอดรับกับดัชนีหุ้นนาสแดคที่ทำสถิติปิดในแง่เปอร์เซ็นต์รายสัปดาห์ที่ดำดิ่งหนักที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายนดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.5%, +5.0% และ +6.0% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติรายเดือนที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2024 นี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นักลงทุนยังคงมีความผิดหวัง และเกิดความกังวลอย่างมากมายหลังจากธนาคารสหรัฐอเมริกามีมติลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงตามคาด 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% แต่มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 11 ต่อ 1 เสียง ซึ่ง 1 เสียงนั้น ลงมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ แถลงว่าเฟดต้องการเห็นความคืบหน้าของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่จะต้องปรับลดลงเข้าสู่เป้าหมาย อย่างไรก็ตาม เฟดจะพิจารณาด้วยความระมัดระวังในการผ่อนคลายดอกเบี้ยระยะสั้นในปี 2025
นักลงทุนเพิ่มโอกาสการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดครั้งแรกในปี 2025 จะมีขึ้นในเดือนมีนาคม และครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในเดือนตุลาคม ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันในคืนผ่านมานั้น นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 50% ที่จะลดดอกเบี้ยระยะสั้นในเดือนธันวาคมของปี 2025 สำหรับการประชุมครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2025 จะมีขึ้นในวันที่ 27-28 มกราคม 2025