ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 44,458 จุด +483 จุด หรือ +1.10% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,445 จุด +72 จุด หรือ +1.13% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 21,681 จุด +296 จุด หรือ +1.39% ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเหนือระดับ 44,000 จุดครั้งใหม่ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ส่งผลให้จากต้นปีนี้ เป็นการทำนิวไฮของทั้ง 2 ดัชนีหุ้นดังกล่าวเป็นครั้งที่ 16 และครั้งที่ 17 ตามลำดับ
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +1.3%, +1.5% และ +1.0% ตามลำดับ
สาเหตุจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปในสหรัฐในเดือนกรกฎาคม พบว่าเพิ่มขึ้นแต่ไม่ถึงที่คาดการณ์ไว้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น เพิ่มขึ้น 0.2% จากคาดการณ์ที่ 0.2% และเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา เพิ่มขึ้น 2.7% จากคาดการณ์ที่ 2.8% ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง นักลงทุนรอการประกาศเงินเฟ้อผู้ผลิตสินค้าประจำเดือนกรกฎาคมในคืนนี้ ซึ่งจะได้ประเมินแรงกดดันที่มีผลต่อการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ครั้ง จากเดิมที่ประเมินว่าจะมีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐและตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องที่ 4.25-4.50% นั้น นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวเฟดยังไม่รีบร้อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุมเดือนกันยายน