ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 38,563 จุด -64 จุด หรือ -0.17% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,975 จุด -30 จุด หรือ -0.60% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 15,630 จุด -144 จุด หรือ -0.92% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.11%, -0.42% และ -1.34% ตามลำดับ
ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดร่วงหลุดระดับ 5,000 จุดรอบใหม่ ขณะที่ ดัชนีหุ้นนาสแดคยังห่างจากสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 16,057 จุด เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2022 และสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 16,121 จุด
สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับมากังวลรอบใหม่ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตสินค้าในเดือนมกราคมที่สหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นถึง 0.3% มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ส่งผลประเมินระยะเวลาในการเริ่มลดดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐอาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ก่อนหน้านี้ มีความเป็นกังวลกับกระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปเดือนมกราคม 2024 พบว่า เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้านึ้ และยังเพิ่มขึ้น 3.1% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 2.9% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันกับในปี 2566 นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคขั้นพื้นฐานเดือนมกราคม 2024 ยังพบว่าเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2023 ที่ขยายตัว 0.3% ขณะที่ เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023
ทั้งนึ้ ด้านตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 77%