ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 44,946 จุด +34 จุด หรือ +0.08% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,449 จุด -18 จุด หรือ -0.29% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 21,622 จุด -87 จุด หรือ -0.40% ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเข้าใกล้ระดับ 45,000 จุด หยุดดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 3 ติดกัน ส่งผลให้จากต้นปีนี้ เป็นการทำนิวไฮของทั้ง 2 ดัชนีหุ้นดังกล่าวเป็นครั้งที่ 18 เท่ากัน
ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +1.74%, +0.94% และ +0.81% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนในตลาดหุ้นตัดสินใจทำกำไรช่วงระยะสั้นหลังจากที่ราคาหุ้นเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวอเมริกันในเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลง สะท้อนจากความกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพียง 0.25% จากเดิมคาดว่าจะลดลงมากถึง 0.5% ในเดือนกันยายน และจะลดลงอีก 0.25% ในเดือนตุลาคม นั่นหมายถึงคาดว่าจะปรับลด 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของครึ่งปีหลังนี้ จากเดิมที่ประเมินว่าจะมีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐและตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่องที่ 4.25-4.50% นั้น นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวเฟดยังไม่รีบร้อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุมเดือนกันยายน