ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 44,433 จุด -188 จุด หรือ -0.43% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,956 จุด +0.81 จุด หรือ +0.01% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 19,075 จุด +48 จุด หรือ +0.26% ส่งผลหยุดดัชนีหุ้นนาสแดคปิดดำดิ่งรุนแรงรวม 4 วันติดกันถึง -1,028 จุด นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นหุ้นนาสแดคปิดหลุดระดับ 20,000 จุดต่อเนื่อง และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดหลุดจากระดับสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ปิดขึ้น 4 วันติดกัน ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -2.5%, -1.7% และ -2.5% ตามลำดับ สิ้นสุดมกราคม ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +4.7%, +2.7% และ +1.6% ตามลำดับ
สาเหตุจากหุ้นบริษัทเอ็นวีเดีย ผู้ผลิตไมโครชิปเอไอรายใหญ่ที่สุดในโลก มีราคาสูงขึ้นจากผลประกอบการที่ออกมาดี แต่นักลงทุนยังคงกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่มีสัญญาณเศรษฐกิจหลายอย่างชะลอตัวมากขึ้น เมื่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวอเมริกันเดือนกุมภาพันธ์ดำดิ่งอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ส่งผลค่าดัชนีดังกล่าวทรุดต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และยังลดต่ำลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จากความกังวลในแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคต และนโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐ
ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยมิชิแกน เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนกุมภาพันธ์ พบว่ามีค่าลดลงแตะที่ระดับ 64.7 จุด ซึ่งลดลงมากกว่า 10 จุดเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา และยังลดลงมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้สาเหตุจากผู้บริโภคชาวอเมริกันกลับมากังวลกับตัวเลขเงินเฟ้อที่จะเริ่มสูงขึ้นครั้งใหม่ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐ