ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,005 จุด +235 จุด หรือ +0.61% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,175 จุด +57 จุด หรือ +1.12% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,265 จุด +246 จุด หรือ +1.54% ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ โดยเป็นครั้งที่ 17 ตั้งแต่ต้นปีนี้
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.93%, -0.26% และ -1.17% ตามลำดับ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติรายสัปดาห์ที่ตกต่ำย่ำแย่ในรอบ 3 เดือนครึ่ง
เมื่อสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทะยานขึ้น +2.22%, +5.17% และ +6.12% ตามลำดับ ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นปิดขึ้นแดนบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่พฤษภาคม 2021 เป็นต้นมา
สาเหตุจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะเอ็นวีเดียกลับมาซื้ออย่างหนาตา หลังจากนักลงทุนขายทำกำไรไปเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐที่ประกาศในคืนผ่านมานั้น นักลงทุนมองว่าแท้จะเพิ่มขึ้นและเกินคาดการณ์ก็ตาม แต่ไม่ได้สูงอย่างน่ากังวล
ทั้งนึ้ ด้านตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 70%
