ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,069 จุด +456 จุด หรือ +1.18% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,087 จุด +105 จุด หรือ +2.11% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,041 จุด +460 จุด หรือ +2.96% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์รอบใหม่ สอดรับกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และพุ่งขึ้นดีที่สุดใน 1 วันในรอบ 1 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่มกราคม 2023 ขณะที่ ดัชนีหุ้นนาสแดคพุ่งขึ้นดีที่สุดใน 1 วันในรอบ 1 ปี หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2023 และยังห่างจากสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 16,057 จุด เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2022 และสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 16,121 จุด
สาเหตุจากราคาหุ้นบริษัทเอ็นวิเดีย ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไมโครชิปมีราคาพุ่งทะยานกว่า +16% จากการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีที่ใช้ซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆพุ่งทะยานสูงและคึกคักตลอดทั้งวัน
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.11%, -0.42% และ -1.34% ตามลำดับ
ทั้งนึ้ ด้านตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 66% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 77%
