วันนี้ 13 พฤศจิกายน 2024 ดัชนีเอ็มเอสซีไอ (MSCI) ในตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกปิดร่วงลง -0.8% ส่งผลดัชนีหุ้นดังกล่าวลดลงถึง 4 วันติดต่อกัน ทำสถิติปิดร่วงยาวต่อเนื่องในรอบ 3 สัปดาห์ นั่นหมายถึงมูลค่าตลาดหุ้นในตลาดประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกเสียหายไปมากถึง 650,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 22.8 ล้านล้านบาทภายใน 4 วันติดกันผ่านมาจนถึงวันนี้
สอดคล้องกับดัชนีเอสซีไอ (MSCI) ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนประเทศเกิดใหม่ทั่วโลก พบว่าร่วงลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเปรียบเทียบสกุลเงินสำคัญอันดับต้นๆของโลก ส่งผลให้ 10 สกุลเงินในประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกที่ร่วงอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐมาถึงวันนี้ มีดังนี้ อันดับ 1.เปโซ เม็กซิกัน -2.5% อันดับ 2.ริงกิต มาเลเซีย -2.6% 3.ซวอตือ โปแลนด์ -2.7% 4.เลฟ บัลแกเรีย -2.8% 5.เลอูโรมาเนีย -2.9% 6.เปโซ ชิลี -2.95% 7.โครูนา เชค -3.1% 8.โฟรินท์ ฮังการี -3.2% 9.บาท ไทย -3.5% และ 10.แรนด์ แอฟริกาใต้ -3.9%
สาเหตุจากนักลงทุนทั้งในตลาดหุ้น และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดประเทศเกิดใหม่ล้วนปิดความเสี่ยงด้วยการโยกเงินเข้าซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐต่อเนื่อง หลังจากรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงการเลือกบุคคลที่ใกล้ชิด และสามารถทำงานในเชิงนโยบายของทรัมป์ได้อย่างราบรื่นตามที่นายทรัมป์ประกาศนโยบายในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายหลัก คือ อเมริกา เฟิร์สท์ นอกจากนี้ นโยบายการค้าระหว่างประเทศและนโยบายการเก็บภาษีสูงขึ้นกับจีน และประเทศอื่นๆทั่วโลก ทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐจะหวนกลับเพิ่มขึ้น ส่งผลเป็นข้อจำกัดในการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ