ดัชนี SET Index หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,467.42 จุด ปรับร่วงลง 14.25 จุด หรือ -0.96% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 57,225.82 ล้านบาท ดัชนีเกือบตลอดวันแกว่งไซด์เวย์ แต่ท้ายชั่วโมงร่วงลงมา โดยทำจุดต่ำสุด 1,463.06 จุด และจุดสูงสุด 1,487.58 จุด
สำหรับ 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 5,944.92 ล้านบาท ปิดที่ 155.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
- GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,452.55 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,415.61 ล้านบาท ปิดที่ 274.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงใกล้ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลงลึก จากตลอดวันแกว่งไซด์เวย์ เพราะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับริกันชนะการเลือกตั้ง รวมทั้งได้คะแนนเสียงคุมสภาบนและล่าง ซึ่งเป็นลบต่อตลาดเอเชีย โดยเงินบาทอ่อนค่าลงจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ยังกดดันเงินเฟ้อสูงขึ้นจากการขึ้นภาษี และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง เป็นผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นภูมิภาค
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดยังคงมีความผันผวน มีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อ โดยมองว่าคลาดหุ้นจะมีความผันผวน 1-2 เดือน ในเดือนธ.ค.มองว่าเริ่มตั้งหลักได้ พรุ่งนี้ยังต้องติดตาม MSCI Review คืนนี้ หุ้นไทยคาดว่าจะได้ปรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยมีโอกาสปรับน้ำหนักหุ้นขนาดใหญ่ โดยให้แนวรับ 1,445-1,450 จุด แนวต้านที่ 1,490 จุด
ด้านนายประกิต สิริวัฒนเกตุ นักกลยุทธ์การลงทุน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ กล่าวว่า หุ้นไทยปรับตัวลงสิบกว่าจุดเพราะนักลงทุนกังวลโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีอาจทำการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกหดตัว 1.1-1.3%
รวมทั้งอาจทำให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จีนหดตัวถึง 2% ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ตลาดหุ้น เพราะ MSCI China มีความเชื่อมโยง (Correlation) กับหุ้นไทย ถ้า MSCI China หดตัว 13% ตามการประเมิน ก็อาจทำให้หุ้นไทยลบ 5% หรือประมาณ 50-70 จุด
ส่วนพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) คาดว่าดัชนีฯ แกว่งในกรอบ 1,450-1,470 จุด