ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าในการประชุม FOMC วันที่ 28-29 ม.ค. นี้ คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% จากปัจจัยดังนี้ ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเร่งสูงขึ้น โดยเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค. 2567 เร่งสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันมาอยู่ที่ 2.9% แม้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐานในปีก่อนหน้า ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ธ.ค. 2567 ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 3% อย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขตลาดแรงงานยังสะท้อนภาพแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) เดือน ธ.ค. 2567 ปรับสูงขึ้นมากกว่าตลาดคาดที่ 256,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือน ธ.ค. 2567 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.1%
เฟดรอดูแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้เพิ่มสูงขึ้น หลังจากวันพิธีสาบานตนฯ ทรัมป์ประกาศจะปรับขึ้นภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าแคนาดาและเม็กซิโก และปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนเพิ่มอีก 10% จากอัตราเดิม รวมถึงมีแผนเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายขนานใหญ่
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในไตรมาส 1/2568 หากโมเมนตัมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันเท่าใดนัก ประกอบกับหากสหรัฐฯ มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าเม็กซิโก แคนาดา และจีน ตามที่ได้ประกาศไว้ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด เฟดปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้ ในช่วงไตรมาส 2-4 สอดคล้องกับ Dot Plot ที่ออกมาล่าสุดในการประชุมเดือนธ.ค. 2567 จากดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง และความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้น ในขณะที่ ตลาดส่วนใหญ่มองเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 1 ครั้งในปีนี้