ทีซีดีซี (TCDC) เปิดเผยรายงานเจาะเทรนด์โลก 2025 ในหัวข้อ Beyond Imagination ทำให้เห็นกลุ่มคนแต่ละเจนเนอเรชั่นที่จะใช้ชีวิตในปี 2025 ขึ้นไป ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และสังคม โดยเริ่มจากกลุ่มคนเบบี้บูมเมอร์ คือคนที่มีอายุระหว่าง 60-74 ปีในปัจจุบัน หรือเกิดระหว่างปี 1946-1964 นั้น มีรายงานจากสหประชาชาติคาดการณ์ว่าในในปี 2050 จะมีจำนวนผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปมากกว่าจำนวนประชากรที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี เนื่องจากอัตราการเกิดที่่น้อยลง และอาจมีจำนวนผู้สูงอายุมากกว่าในปัจจุบันถึง 2 เท่า เพราะปัจจัยทางการแพทย์และองค์ความรู้งานวิจัยด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมากกว่า 100 ปีมีจำนวนมากขึ้น การเป็นผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องตลก ชาวบูมเมอร์มองว่าการวางตัวให้เท่าทันโลกตามกระแสโซเชียลมีเดีย หรือใช้ตามวัยรุ่น ไม่ใช่เรื่องตลกที่ต้องโดนล้อเลียน
ธุรกิจุยุคนี้มักให้ความสำคัญกับผู้บริโภคมิลเลนเนียมและและเจนซี จนลืมมองว่าผู้บริโภคที่มีกำลังทรัพย์และต้องการสินค้ายิ่งกว่าคือคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ผลสำรวจจากพิวรีเสิร์ช Pew Research พบว่า คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ 85% เช็คสมาร์ทโฟน และออนไลน์อย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน ขณะที่ 31% ออนไลน์ตลอดเวลา ในปีผ่านมาผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไปใช้จ่ายกับสินค้าออนไลน์โดยเฉลี่ย 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือกว่า 6,358 ล้านบาทต่อเดือน
คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่เข้าใจเทคโนโลยีช้าที่สุด แต่กลับเป็นผู้บริโภคที่มีสัดส่วนมากที่สุดในสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน แท็บเล็ท และนาฬิกาสมาร์ท โดยเฉพาะนาฬิกาสมาร์ทและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการตรวจจับข้อมูลสุขภาพ สามารถเติบโตในกลุ่มคนเบบี้บูมเมอร์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2022 ที่มีจำนวน 13,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 460 ล้านบาท เป็น 15,900,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 541 ล้านบาทภายในปี 2025
ในปี 2025 คอนเทนต์วิดีโอช้อปปิ้งบนเฟซบุ๊กยังคงครองตำแหน่งอันดับหนึ่งสำหรับคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ สัดส่วนมากถึง 85% ของผู้สูงอายุใช้งานเฟซบุ๊กสไลด์ฟีดวีดิโอเรื่อยๆ โดยไม่เปิดเสียงแต่จะอ่านคำบรรยายที่มีตัวอักษรขนาดใหญ่ หากเป็นหน้าเพจ หรือเว็บไซต์ ตัวอักษรต้องมีขนาดมากกว่า 16pt และเลือกใช้ประโยคสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายและตรงประเด็น