นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรณีคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (Milk Board) ที่มีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ได้ประกาศปรับราคาน้ำนมโคดิบ จาก 20.50 บาท/กก. เป็น 22.75 บาท/กก. หรือปรับขึ้น 2.25 บาท/กก. ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตนมสดและผลิตภัณฑ์นมปรับสูงขึ้น จนปรากฏเป็นข่าวว่า บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายนมสดและผลิตภัณฑ์นมเรียกร้องให้กรมฯ พิจารณาปรับราคาให้ทั้งในส่วนของต้นทุนน้ำนมโคดิบและต้นทุนส่วนอื่นๆ ด้วย
และเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 กรมการค้าภายใน ได้ประชุมร่วมกันสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย สมาคมอุตสาหกรรมนมและอาหาร บริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย โดยมีผู้แทนจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ฝ่ายเลขานุการของ Milk Board ร่วมประชุมด้วย ซึ่งในการประชุมบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายนมสดและผลิตภัณฑ์นมได้ขอให้กรมการค้าภายในพิจารณาปรับราคาจำหน่ายนมสดและผลิตภัณฑ์ตามมติ Milk Board และขอให้พิจารณาต้นทุนส่วนอื่นๆ ที่สูงขึ้นด้วย
กรมฯ ได้รับทราบ และได้ชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะลดภาระค่าครองชีพให้แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายไว้โดยต้องมีความสมดุลทุกฝ่ายอยู่ได้ โดยกรมจะยังคงยึดหลักกการเดิมที่จะปรับเพิ่มขึ้นเฉพาะในส่วนของต้นทุนน้ำนมโคดิบที่สูงขึ้นตามมติ Milk Board ซึ่งจะพิจารณาตามสัดส่วนการใช้น้ำนมดิบในแต่ละผลิตภัณฑ์และตามขนาดบรรจุภัณฑ์เท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบการรับทราบนโยบายและเข้าใจถึงสถานการณ์
สำหรับการขอปรับราคา บริษัทผู้ผลิตจะต้องแสดงหลักฐานการรับซื้อน้ำนมโคดิบว่าได้ซื้อในราคาที่สอดคล้องกับประกาศของ Milk Board (ไม่ต่ำกว่า 22.75 บาท/กก.) และต้องยื่นข้อมูลสัดส่วนการใช้น้ำนมโคดิบด้วย เนื่องจากนมสดและผลิตภัณฑ์นมแต่ละยี่ห้อ แต่ละสูตร ก็อาจใช้น้ำนมโคดิบในสัดส่วนที่แตกต่างกัน การพิจารณาอนุญาตให้ก็จะพิจารณาให้ตามต้นทุนน้ำนมโคดิบที่สูงขึ้นจริงซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป
ทั้งนี้หากมีการปรับราคานมขึ้นตามต้นทุนน้ำนมดิบ คาดว่าราคานมกล่องเล็ก 180-225 มิลลิลิตรจะปรับขึ้นประมาณ 25-50 สตางค์ต่อกล่อง และขนาดใหญ่ หรือขวดลิตร จะปรับึ้น 1-2 บาท