นายโนริอากิ ยามาชิตะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยประสบความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทำให้ภาพรวมตลาดลดลง9% โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่มียอดขายลดลงถึง 32% แต่รถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ (HILUX REVO) กลับมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 40% ถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2554 ทำให้ภาพรวมของส่วนแบ่งการตลาดของเราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้โตโยต้ามีสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนของกลุ่มรถกระบะกว่า 47% ในช่วงมกราคม–กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดโตโยต้าได้ส่งรถยนต์ไฮลักซ์ รีโว่ (HILUX REVO) รุ่นปรับปรุงใหม่ ตอกย้ำความเป็นรถกระบะขวัญใจมหาชน
Hilux Revo Z Edition ทั้งรุ่น Double cab และSmart cab ด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ ไฟตัดหมอกไฟหน้ารมดำ และวัสดุภายนอกสีดำเมทัลลิกในรุ่น MID ภายนอกโฉบเฉี่ยว ดุดัน ตามคำเรียกร้องจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ ให้มีสไตล์ เท่ เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเพื่อคนไทย ทั้ง VSC และHAC ในทั้งสองรุ่นย่อย
Hilux Revo Smart Cab Pre-runner & 4×4 ปรับโฉมตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า ที่ชอบการออกแบบกระจังหน้าแบบ REVO-D ช่วยเสริมภาพลักษณ์รถกระบะใช้งานส่วนบุคคล และระบบช่วงล่าง Superflex suspension ที่นุ่มสบาย เหมาะกับการใช้งานในเมือง
Hilux Revo GR-Sport 4×4 นิยามความแกร่งสปอร์ตพรีเมี่ยม กระบะสายพันธ์แกร่งรุ่นเรือธงที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถแข่งออฟโรดแรลลี่ด้วยสมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศกับเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ 224 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน–เมตร ปรับจูนช่วงล่าง เพิ่มความกว้างฐานล้อ(wide tread) ด้านหน้าขึ้นอีก 140 มม. ด้านหลัง155 มม. และเปลี่ยนเบรกหลังเป็นดิสก์เบรกช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายสูงสุด อาทิ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และAndroid Auto แบบไร้สาย
โตโยต้าประกาศราคาจำหน่าย Hilux Revo รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2567 มีดังนี้
• B-cab ราคา เริ่มต้น 584,000-801,000 บาท
• Z Edition ราคา เริ่มต้น 669,000-862,000 บาท
• Pre-runner ราคา เริ่มต้น 775,000-1,072,000 บาท
• 4×4 ราคา เริ่มต้น 944,000-1,252,000 บาท
• Rocco ราคา เริ่มต้น 1,006,000-1,326,000 บาท
• GR-Sport ราคา เริ่มต้น 934,000-1,499,000 บาท
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้โตโยต้าวางเป้ายอดขายรถยนต์แบบเดือนต่อเดือน เพราะภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยคาดการณ์ล่วงหน้าได้ค่อนข้างยาก ผลพวงจากปัญหาเศรษฐกิจ และความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินซึ่งยังส่งผลกระทบต่อลูกค้าต่อเนื่องมาจากปีก่อน โดยในช่วง 2 เดือนของปี ยอมรับว่ายอดขายไม่เข้าเป้า แต่จากนี้โตโยต้าจะทยอยเปิดตัวรถยนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังนำเข้า Toyota Prius มาจำหน่ายด้วย จึงตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์เกิน 40% และครองอันดับ 1 ทุกเซกเมนต์ของรถที่มีขาย ปี 2024
“ยอดจอง TOYOTA HILUX CHAMP สูงถึง 5,000 คัน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะลูกค้าที่ชอบนำรถมาแต่ง เดิมตั้งเป้าอยู่ที่ 2% แต่ขณะนี้ยอดจองสูงถึง 17% ลูกค้าที่สนใจเข้ามาซื้อเป็นลูกค้าใหม่ ซึ่งจริงๆแล้ว ตลาดรถคอมเมอร์เชียลปกติจะใช้เวลาในการรับรู้ค่อนข้างนาน แต่จากนี้เราจะโรดโชว์เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น ประกอบกับเราได้เปิดตัว Hilux Generation เชื่อว่าต่อไปตลาดรถคอมเมอร์เชียลจะเป็นตลาดสำคัญ”
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่เข้ามาบุกตลาดในปัจจุบัน พร้อมกับลดราคาขาย ไม่ได้กระทบต่อยอดขายรถยนต์โตโยต้าแต่อย่างใด เชื่อว่าลูกค้ามีจุดตัดสินใจที่แตกต่างระหว่างรถพลังงานน้ำมันกับรถพลังไฟฟ้า พิจารณายอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเดือนก.พ.2567 ที่ผ่านมา ตัวเลขจดทะเบียนหายไปครึ่งหนึ่งจากเดือนม.ค. 2567 เชื่อว่าตลาดยังต้องเรียนรู้กันต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนรถกระบะไฟฟ้า โตโยต้าและเมืองพัทยาร่วมลงนามความร่วมมือโครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลภาวะ” ยกระดับการเดินทางและระบบขนส่งสาธารณะในเมืองพัทยาโดยใช้รถยนต์พลังงานสะอาด ซึ่งกระบะไฟฟ้าของโตโยต้าเป็นส่วนหนึ่งในการมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยจะเริ่มภายในเดือนเม.ย.นี้
