ทองคำขึ้นแท่นสินทรัพย์สำรองใหญ่เป็นอันดับ 2 โลก เป็นรองเงินดอลลาร์สหรัฐ ลุ้นทองพุ่งทดสอบ 3,500 ดอลล์ ทองไทย 53,850 หลังสถานการณ์ตะวันออกกลางปะทุ

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้รายงานข้อมูลด้านทุนสำรองสำหรับปี 2567 ที่พบว่าทองคำกลายเป็นสินทรัพย์สำรองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น โดย ณ สิ้นปี 2567 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 20% แซงหน้าเงินยูโรที่มีสัดส่วน 16% เป็นรองเพียงเงินดอลลาร์ที่มีสัดส่วน 46.0% ซึ่งสัดส่วนทองคำดังกล่าวนับว่าเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนเฉลี่ยที่ 10% ในช่วงระหว่างปี 2553-2562 สวนทางกับเงินดอลลาร์และเงินยูโรที่ถูกลดสัดส่วนในทุนสำรองลง

รายงานนี้ถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำ เนื่องจากแสดงถึงการให้ความสำคัญของทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในฐานะทุนสำรองฯ ซึ่งสามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและเพื่อกระจายความเสี่ยงในการถือครอง อีซีบียังระบุอีกว่าทองคำมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศที่กังวลเกี่ยวกับการคว่ำบาตรและการลดบทบาทของสกุลเงินหลักในระบบการเงินระหว่างประเทศ จากข้อมูลนี้จึงมองว่าความต้องการของธนาคารกลางหลายแห่งจะยังคงดำเนินต่อไป แม้นักวิเคราะห์จากต่างประเทศจะระบุว่าความต้องการของธนาคารกลางอาจจะมีกำลังลดน้อยลงเนื่องจากบางแห่งสะสมไว้จนใกล้เต็มเพดาน แต่ก็จะยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องจากหลาย ๆ ชาติ แม้จะไม่หวือหวาเช่นในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ราคาทองคำได้ปัจจัยความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งยกระดับความขัดแย้งครั้งสำคัญระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเข้ามาสนับสนุนและเพิ่มความหวือหวาในระยะสั้นอีกครั้ง โดยเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยันว่ากองทัพอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อโครงการนิวเคลียร์และฐานยิงขีปนาวุธของอิหร่านในช่วงเช้าวันนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อขจัดภัยคุกคามเหล่านี้ ซึ่งอิสราเอล แคทซ์ รมว.กลาโหมของอิสราเอลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นกรณีพิเศษ เนื่องมาจากการที่อิสราเอล “โจมตีอิหร่านแบบชิงลงมือก่อน (pre-emptive strike)” ซึ่งถือเป็นวิธีการป้องกันตนเองรูปแบบหนึ่ง

การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้ โมฮัมหมัด ฮอสเซน บาเกรี เสนาธิการทหารสูงสุดของกองทัพอิหร่าน ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม และ โกแลม-อาลี ราชิด ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางกาตัม อัล-อันบียา ของอิหร่านได้เสียชีวิต ทำให้อิหร่านเตรียมจะตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลอย่างรุนแรงและเด็ดขาด และเจ้าหน้าที่อิหร่านรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่ารายละเอียดการตอบโต้ของอิหร่านนั้น กำลังอยู่ระหว่างการหารือในระดับสูงสุด

ทั้งนี้ในระยะสั้นราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับฐาน โดยเป็นการปรับลดลงหลังจากที่ได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่หลายรอบในปีนี้ แต่ประเด็นการตั้งกำแพงภาษีการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ไม่มีความชัดเจนก็ได้ส่งผลกระทบให้ราคาทองคำผันผวน ขณะที่ประเด็นความตึงเครียดอิสราเอลกับอิหร่าน ทำให้ทองคำเริ่มเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง โดยมองว่าทองคำยังมีโอกาสไปต่อได้ในระยะยาวทั้งจากปัจจัยการสะสมของธนาคารกลาง เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศและปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดย YLG ยังคงเป้าหมายทองคำของปีนี้ไว้ที่ 3,500-3,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับคำแนะนำการลงทุนทองคำ ในระยะสั้นมองว่าทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 3,354-3,377 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้าน 3,467-3,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศมองว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 51,600-51,950 บาท/บาททองคำ ขณะที่กรอบแนวต้าน 53,350-53,850 บาท/บาททองคำ (คำนวณจากค่าเงินบาทระดับ 33.42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles