สภาทองคำโลก (World Gold Council: WGC) เปิดเผยว่า ตลาด ทองคำ ของประเทศไทยจะเติบโตเพิ่มขึ้นได้จากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการสร้างมาตรฐานทองคำ โดยคุณ เดวิด เทต (David Tait) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสภาทองคำโลกกล่าวว่า ในปัจจุบัน ข้อจำกัดด้านการเข้าถึง ความโปร่งใส และปัญหาด้านประสิทธิภาพยังคงเป็นอุปสรรคต่อการบูรณาการการซื้อขายทองคำให้เข้ากับระบบการเงินสมัยใหม่
วิสัยทัศน์ “Gold247” ของสภาทองคำโลก มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงการซื้อขายทองคำ ด้วยการยกระดับประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือของห่วงโซ่อุปทานทองคำในประเทศไทยและทั่วโลก คุณเดวิดได้สนับสนุนการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในธุรกรรมทองคำทั้งในด้านการค้าปลีกและค้าส่งนับตั้งแต่เริ่มดำรงตำแหน่งที่สภาทองคำโลกในเดือนพฤศจิกายน 2561 โดยกล่าวว่า “เป้าหมายของGold247 คือการทำให้ตลาดทองคำมีความทันสมัย และปรับตัวให้เข้ากับยุคศตวรรษที่ 21 เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายทองได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินประเภทอื่น ๆ”
โครงการ Gold247 นี้สร้างขึ้นบนพื้นฐานของหลักการสำคัญสามประการ ได้แก่ ความโปร่งใส(Integrity) การเข้าถึงได้ง่าย (Accessibility) และความสามารถในการแลกเปลี่ยนทดแทนกันได้(Fungibility) โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ทองคำมีความเคลื่อนไหวและสามารถเข้าถึงได้ง่ายเช่นเดียวกับสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ
ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ หมายถึงรากฐานที่สำคัญของ Gold247 คือความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทานทองคำ สภาทองคำโลกได้ร่วมมือกับสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน (London Bullion Market Association: LBMA) เพื่อนำร่องโครงการ Gold Bar Integrity Programme หรือGBI ซึ่งใช้เทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology: DTL หรือที่รู้จักโดยทั่วไปในชื่อ Blockchain) ในการพัฒนาและใช้งานโซลูชันของห่วงโซ่อุปทานดิจิทัลที่มีความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลที่มีความสำคัญ โดยข้อมูลที่ถูกบันทึกในระบบ Blockchain นั้นจะถูกเข้ารหัสเพื่อยืนยันความถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้ โครงการGBI มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับเพิ่มความน่าเชื่อถือของทองคำแท่ง และปรับปรุงสร้างความโปร่งใสในตลาดการซื้อขายทองคำแบบนอกตลาด (Over-the-Counter)
นับตั้งแต่การเปิดตัวโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จ ผู้ผลิตและผู้ซื้อขายทองคำรายใหญ่จากทั่วห่วงโซ่คุณค่าของทองคำได้ลงนามเข้าร่วมในระบบนิเวศทองคำของ GBI และผลักดันโครงการดังกล่าวให้เกิดการดำเนินการทั่วทั้งอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มความโปร่งใสตั้งแต่ระดับเหมืองทองจนถึงตลาดการซื้อขาย ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาสมาชิกทั้งหมดของสภาทองคำโลกจำนวน 31 รายได้เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มและเพิ่มข้อมูลแหล่งที่มาหลักของทองคำเข้าในระบบ โดยโครงการมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิก 11 รายได้เริ่มต้นใช้งานระบบแล้วและสมาชิกรายอื่น ๆ กำลังจะเริ่มใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน ยังได้ประกาศว่าบริษัท aXedras จะเป็นผู้จัดเตรียมฐานข้อมูล DLT ให้กับสมาชิกของสมาคม และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการเคลื่อนไหวของข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วทันเวลา ทำให้ผู้ที่สกัดทองคำเพื่อให้ได้ค่าความบริสุทธิ์ตามมาตรฐาน และสมาชิกของสมาคมตลาดทองคำแห่งลอนดอน สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพื่อแบ่งปันข้อมูลกับสมาคมได้อย่างปลอดภัย
คุณเดวิด กล่าวว่า “ความสามารถในการติดตามข้อมูลทองคำแท่งตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าแหล่งที่มาของทองคำมีความน่าเชื่อถือและทองคำมีคุณภาพ ในยุคที่ความโปร่งใสคือหัวใจหลักของการดำเนินงาน การติดตามข้อมูลจะช่วยให้นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดการซื้อขายมีความมั่นใจมากขึ้นว่าทองคำของพวกเขาเป็นของแท้ และได้ถูกผลิตและจัดหามาอย่างโปร่งใส เรายินดีที่ได้เห็นจำนวนผู้เกี่ยวข้องรายหลักในอุตสาหกรรมทองคำเข้าร่วมในระบบนิเวศของ GBI มากขึ้น และจะมีเพิ่มเติมอีกในอนาคต”
หัวใจสำคัญประการหนึ่งของโครงการ Gold247คือการยกระดับการเข้าถึงทองคำให้มีความสะดวกและง่ายดาย ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างมาตรฐานสากลสำหรับการซื้อขายทองคำในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้สามารถซื้อขายทองคำได้สะดวกเช่นเดียวกับหุ้นหรือสกุลเงินที่การซื้อขายเกิดขึ้นทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงหรือที่เรียกว่า 24/7
คุณเดวิดตั้งข้อสังเกตว่าประเด็นนี้มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยเป็นพิเศษและกล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีกับความก้าวหน้าของโครงการลงทุนดิจิทัลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น โครงการจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำลังทำการทดสอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) สำหรับภาคค้าปลีก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่พยายามสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะเพิ่มความสามารถในการเข้าถึง ซึ่งอาจทำให้กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ของไทยสนใจการลงทุนในทองคำมากขึ้น รวมทั้งช่วยเพิ่มกระแสเงินทุนให้เข้าสู่กองทุน ETF ทองคำเพิ่มขึ้น และเสริมความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทองคำในประเทศไทย”
คุณเดวิดยังตั้งข้อสังเกตว่าตลาดทองคำทั่วโลกที่มีความหลากหลายนั้นทำให้ไม่สามารถซื้อขายทองคำได้อย่างง่ายดาย การทำให้การซื้อขายทองคำเป็นเรื่องง่ายและมีต้นทุนที่คุ้มค่า จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ทองคำได้มากขึ้นซึ่งจะกระตุ้นความต้องการในระยะยาว แม้ว่าปัจจุบันตลาดทองคำทั่วโลกจะเชื่อมโยงกัน แต่ต่างก็มีมาตรฐานในการซื้อขายที่แตกต่างกันไป ทั้งขนาดแท่งทองคำ เกรดทองคำ และรูปแบบการซื้อขายที่ไม่เหมือนกัน
ปัจจุบันสภาทองคำโลกกำลังทำงานร่วมกับผู้นำในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างหน่วยทองคำดิจิทัลมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นตัวแทนให้กับทองคำแท่งทั้งหมดในระบบนิเวศแบบดิจิทัล โดยโทเค็นหรือ “คู่ฝาแฝดในระบบดิจิทัล” เหล่านี้จะถูกปรับมาตรฐานให้ตรงกันแม้อยู่ในเขตแดนและระบบกฎหมายที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างตลาดทองคำที่มีความเท่าเทียม โปร่งใส และเป็นสากลอย่างแท้จริง
การสร้างมาตรฐานนี้จะช่วยเพิ่มความต้องการ ส่งเสริมการซื้อขาย และเปิดโอกาสให้ทองคำสามารถถูกนำไปใช้ในรูปแบบที่ไม่เคยใช้มาก่อนในภาคการลงทุนและธนาคาร คุณเดวิดกล่าวเสริมว่า “เป้าหมายของเราคือการสร้างหน่วยทองคำดิจิทัลที่สามารถแทนค่าทองคำในทุกรูปทรง ขนาด และความบริสุทธิ์ต่าง ๆ ได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก”
สำหรับอนาคตของการซื้อขายทองคำดิจิทัลในประเทศไทยนั้น คุณเดวิดยังมองเห็นโอกาสที่สำคัญสำหรับตลาดทองคำของไทยผ่านการนำนวัตกรรมเหล่านี้มาใช้งาน โดยสภาทองคำโลกเชื่อว่าโครงการ Gold247 จะช่วยวางรากฐานเส้นทางสู่อนาคตที่ทองคำสามารถเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย
คุณเดวิด กล่าวว่า “โครงการริเริ่มนี้ได้สร้างวิสัยทัศน์ของอนาคตที่ทองคำยังคงความสำคัญทางวัฒนธรรม ในขณะที่ผลักดันให้ตลาดทองคำของไทยมีบทบาทในระดับภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ‘IGNITE THAILAND’ ของประเทศ ที่ต้องการพัฒนาไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจดิจิทัลชั้นนำของอาเซียน” โดยกล่าวสรุปว่า “เป้าหมายของเราคือการทำให้ทองคำมีบทบาทเพิ่มขึ้นในการจัดสรรพอร์ตการลงทุน และบูรณาการทองคำเข้าสู่ระบบการเงินสมัยใหม่ ในฐานะสินทรัพย์การลงทุนหลักของประเทศไทย”