ทองคำโลกปิดร่วงกว่า 22 ดอลลาร์ ลงเหลือกว่า 3,210 ดอลลาร์ หยุดราคาปิด 4 วันติดพุ่งกว่า 270 ดอลลาร์ กระฉูดรวมกว่า 8% นักลงทุนทำกำไรช่วงสั้น สหรัฐโยกเซมิคอนดักเตอร์เข้าเสียภาษีอีกกลุ่ม

ทองคำโลก ปิดร่วงกว่า 22 ดอลลาร์ ลงเหลือกว่า 3,210 ดอลลาร์ หยุดราคาปิด 4 วันติดพุ่งกว่า 270 ดอลลาร์ กระฉูดรวมกว่า 8% นักลงทุนทำกำไรช่วงสั้น สหรัฐโยกเซมิคอนดักเตอร์เข้าเสียภาษีอีกกลุ่ม

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 14 เมษายน 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 3,213.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -22.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.7% ขณะที่เมื่อวันที่ 11 เมษายนผ่านมา ทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ 3,235.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และมีราคาสูงสุดระหว่างเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ระดับ 3,245.48 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นอกจากนี้ ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +272.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +7.5%

ในรอบสัปดาห์ผ่านไป ทองคำมีราคาต่ำสุดระหว่างวันลงแตะระดับ 2,955.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันที่ 27 มีนาคม 2025 ทองคำราคาส่งมอบทันที(Spot)ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เกิดขึ้น 22 ครั้ง และมีราคาทะยานขึ้นกว่า 20% นอกจากนี้ สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 พบว่าราคาทองคำพุ่งดีที่สุดในรอบ 39 ปี หรือตั้งแต่ปี 1986 ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมผ่านมา เป็นวันแรกที่ราคาทองคำปิดแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 3,226.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -18.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.6% ส่งผลหยุดทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และหยุดราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +271.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +8.8% ราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ และเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 18 ในปี 2025 นี้ นอกจากนี้ ครั้งสุดท้ายที่ทองคำมีราคาปิดนิวไฮเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปิดที่ระดับ 3,244.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เป็นครั้งแรกที่มีราคาปิดแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และปิดที่ระดับ 3,001.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินความเสี่ยงจากของการจัดเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะประกาศผลในสัปดาห์หน้า หลังจากตัดกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิคส์ออกจากอัตราเสียภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs 125% รวมถึงทำกำไรช่วงสั้นครั้งใหม่หลังจากราคาทองคำโลกผ่านหลัก 3,200 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาลดต่ำลงกว่าระดับ 4% ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่องจนทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี รวมถึงสภาทองคำโลก เปิดเผยว่าความต้องการเพิ่มสูงขึ้นมากและรวดเร็วในกองทุนหน่วยลงทุนทองคำ หรือโกลด์อีทีเอฟของจีนในเดือนเมษายน ทำให้มีปริมาณลงทุนสะสมมากกว่าทั้งไตรมาสที่ 1 ของปีนี้นี้ และยังมากกว่ากองทุนโกลด์อีทีเอฟของสหรัฐด้วย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles