ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 29 มกราคม 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,753.86 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -9.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.4% สำหรับราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2024 ที่ระดับ 2,790.15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาส่งมอบทันที (Spot) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 7 ครั้งในเดือนตุลาคม 2024
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,779.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +8.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.1% ส่งผลราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +41.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.3% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดขึ้น +2.9% กว่า นับเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันที่ราคาทองคำรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ สถิติทองคำในปีที่ 1 ในยุคนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐครั้งแรกในปี 2017 พบว่าให้ผลตอบแทนถึง 13% ในปีดังกล่าว
ในปี 2024 ราคาทองคำโลกทะยาน +26% ทำสถิติเป็นปีที่ดีที่สุดของทองคำโลกในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ในเดือนตุลาคมที่ผ่านไป ทำสถิติราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 6 ครั้ง โดยมีราคาล่วงหน้า (Future) สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,800.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้น 0.3% ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกลับเพิ่มขึ้น ด้านธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด มีมติตรึง ดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนผ่านมา หรือครั้งแรกในรอบการปรับลดลง 3 ครั้งติดต่อกันตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 และยังเป็นการตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกของปี 2025 นี้ รวมถึงส่งสัญญาณชัดเจนว่าเฟดไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเร็วเกินไป ขณะที่นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยความไม่แน่นอนในนโยบายการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์