ทองคำโลกพุ่ง 11% จากต้นปีนี้ แห่ขนทองคำจากอังกฤษเข้าสหรัฐฟันกำไรส่วนต่างพุงกาง นักลงทุนหวั่นเจอภาษีสหรัฐ ธนาคารกลางซื้อทองต่อเนื่อง 3 ปีติด

ทองคำโลก พุ่ง 11% จากต้นปีนี้ แห่ขนทองคำจากอังกฤษเข้าสหรัฐฟันกำไรส่วนต่างพุงกาง นักลงทุนหวั่นเจอภาษีสหรัฐ ธนาคารกลางซื้อทองต่อเนื่อง 3 ปีติด

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่าเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกานั้น ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,911.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +48.74 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.6% ทำสถิติราคาทองคำปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ถึง 7 ครั้งในปีนี้ ที่สำคัญ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงคืนที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 11% ในขณะที่ตลอดทั้งปี 2024 ที่ผ่านไปราคาทองคำในตลาดตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นถึง 27% นับเป็นปีแห่งการลงทุนทองคำที่ดีที่สุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ

ปัจจัยบวกที่มีมีผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นภายในช่วงระยะเวลาเพียง 6 สัปดาห์กว่าที่ผ่านมานั้น มาจากนโยบายการเก็บขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนและความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา ภาวะสงครามการค้าระหว่างประเทศซึ่งจะนำไปสู่การตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้ากับสหรัฐอเมริกา รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะขยายตัวลดต่ำลงในปี 2025 นี้

สถานการณ์ราคาทองคำระหว่างราคาส่งมอบทันที (Spot) และราคาล่วงหน้า (Future) ในตลาดโลกได้ทำให้เกิดส่วนต่างของราคาดังกล่าว รวมถึงค่าพรีเมียมที่จะต้องจ่ายเพิ่มเติมสูงขึ้นจากราคาส่งมอบทันทีในปัจจุบันได้เพิ่มสูงขึ้นห่างกันถึง 28 ดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนประเภทสถาบันในเอเชีย โดยเฉพาะศูนย์กลางการซื้อขายทองคำที่ดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฮ่องกง รวมถึงในตลาดทองคำฝังยุโรปได้ตัดสินใจทำธุรกรรมยืมทองคำแท่งจากธนาคารกลางกรุงลอนดอนเพื่อนำไปขายทำกำไรในสัญญาตราสารอนุพันธ์ตลาดทองคำนิวยอร์กสหรัฐ เนื่องจากราคาทองคำในตลาดกรุงลอนดอนมีราคาต่ำกว่าราคาทองคำโลกโดยเฉพาะที่นิวยอร์ก สหรัฐ

ตลาดซื้อขายทองคำ นิวยอร์ก สหรัฐ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ Comex เปิดเผยว่าปริมาณทองคำแท่งที่เก็บอยู่ในสต๊อก ซึ่งได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ พบว่ามีจำนวนสะสมรวมกันทั้งสิ้น 34.60 ล้านทรอยออนซ์ ไม่เพียงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 90% เมื่อเทียบกับสต๊อกทองคำแท่งในเดือนพฤศจิกายน 2024 แต่ยังทำสถิติสต๊อกทองคำแท่งมากที่สุดในรอบ 2 ปี 7 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2022 เป็นต้นมา

สอดคล้องกับสมาคมตลาดซื้อขายทองคำกรุงลอนดอน อังกฤษ หรือ LBMA เปิดเผยว่า ปริมาณทองคำแท่งที่เก็บอยู่ในสต๊อกในกรุงลอนดอน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาลดต่ำลงถึง 1.7% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมในปี 2024 มาเหลืออยู่ที่ 8,535 เมตริกตัน รวมมูลค่า 771,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 26.23 ล้านล้านบาท สาเหตุจากมีการขนย้ายทองคำไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อลงทุนเก็บส่วนต่างกำไรสูงดังกล่าว

สภาทองคำโลก หรือ WGC เปิดเผยว่าปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกทะยานขึ้นถึง 2 หลักนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เป็นผลมาจากความต้องการซื้อทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อเก็บสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศ ในปี 2024 ที่ผ่านมาธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำรวมกันมากกว่า 1,000 ตัน นับเป็นปีที่ 3 ติดกันที่มีการซื้อทองคำมากกว่า 1,000 ตันขึ้นไป โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 พบว่าธนาคารกลางทั่วโลกเร่งซื้อทองคำแท่งทะยานขึ้นถึง 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles