ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 20 พฤศจิกายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,647.73 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +18.97 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.6% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +86.16 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.0% ส่งผลเป็นราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน เมื่อวันจันทร์ผ่านมาราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้นใน 1 วันสูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำร่วงลงมากถึง -4% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา สอดรับกับในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ราคาทองคำร่วงลงมากถึง -1.8% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 5 เดือน
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,651.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +16.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.8% ส่งผลราคาปิดขึ้น 3 วันติดกันรวม +84.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.3% ขณะที่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนผ่านมา ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Future ปิดที่ 2,669.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -80.50 หรือ -2.9% สำหรับสถิติราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 6 ครั้งในเดือนตุลาคม สำหรับราคาล่วงหน้า (Future) สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,800.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัว หลังจากตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 6 วันติดต่อกัน ทำสถิติแข็งค่าสูงสุดในรอบ 1 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐรายสัปดาห์ที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ ความกังวลในสถานการณ์ตึงเครียดสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียกลับเพิ่มมากขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐนายโจ ไบเดน ประกาศอนุญาตให้ประเทศยูเครนใช้ขีปนาวุธระยะไกลของสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามกับรัสเซีย เนื่องจากเป็นการตอบโต้รัสเซียที่มีการนำกองกำลังทหารเกาหลีเหนือเข้ามาร่วมประจำการในกองทัพรัสเซียเพื่อเตรียมร่วมปฏิบัติการสงครามกับประเทศยูเครน