ธนาคารกลางทั่วโลกจับตานโยบาย “ทรัมป์” ห่วงขึ้นภาษีนำเข้า กระทบถ้วนหน้า เงินเฟ้อพุ่งขึ้น กระทบนโยบายการเงินทั่วโลก

ธนาคารกลาง ทั่วโลกจับตานโยบาย "ทรัมป์" ห่วงขึ้นภาษีนำเข้า กระทบถ้วนหน้า เงินเฟ้อพุ่งขึ้น กระทบนโยบายการเงินทั่วโลก

ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังจับตาว่าสิ่งที่ธนาคารกลางเคยวิตกกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับโดนัลด์ ทรัมป์จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หลังจากที่ทรัมป์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โดยทรัมป์ได้ให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลก รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะปรับลดภาษี ซึ่งจะส่งผลให้งบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อยู่ในภาวะตึงตัวมากขึ้น นอกจากนี้ทรัมป์ยังให้คำมั่นเรื่องการเนรเทศผู้อพยพ ซึ่งอาจจะส่งผลให้แรงงานค่าจ้างต่ำมีจำนวนลดลง

นโยบายเหล่านี้ของทรัมป์จะก่อให้เกิดความเสี่ยงหลักสองประการ คือทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกมีการขยายตัวที่ช้าลง และทำให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยผลลัพธ์ที่ตามมาจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และลดโอกาสที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะสามารถดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินตามแนวทางของตนเอง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าในยุโรปนั้น นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มอ่อนแอลงอันเนื่องมาจากนโยบายของทรัมป์ ขณะเดียวกันคาดว่าจีนอาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่าที่มีการวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ หลังเผชิญกับการถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า

วันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มเห็นเค้าลางของสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น โดยสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นับตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้นและทำให้รัฐบาลของหลายประเทศในเอเชียประกาศมาตรการปกป้องค่าเงินภายในประเทศ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles